ทนายความเจ้าอาวาสวัดตโปทาราม และเจ้าคณะตำบลบางพระ ชลบุรี เข้าแจ้งความต่อ ตร.กองปราบฯ ให้ดำเนินคดีนายอ้วน กับพวกรวม 10 คน ในข้อหาบุกรุก ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังนำลอตเตอรี่มาขายให้หลวงพ่อจนถูกรางวัล 54 ล้าน แล้วพยายามแบล็กเมล์รีดทรัพย์
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความรับมอบอำนาจจาก พระครูสุนทรศีลวัตร กันตสีโล เจ้าอาวาสวัดตโปทาราม และเจ้าคณะตำบลบางพระ เขต 1 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สิงห์ สิงห์เดช พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.2 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายอ้วน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง และ น.ส.วรญา มีโสภา กับพวกรวม 10 คนในข้อหาบุกรุก ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
นายสงกรานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายอ้วนซึ่งเป็นยี่ปั๊วจำหน่ายสลากกินแบ่งฯ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้ยัดเยียดขายสลากกินแบ่งฯ งวดวันที่ 1 กันยายน 2554 จำนวน 1 ชุด ราคา 1,500 บาทให้ ด้วยความรำคาญหลวงพ่อจึงยอมซื้อมา แต่เมื่อวันหวยออกปรากฏว่าสลากดังกล่าวถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินจำนวน 24 ล้านบาท และรางวัลแจ็กพอต 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 54 ล้านบาท เมื่อทราบข่าวว่าหลวงพ่อถูกรางวัล นายอ้วนจึงนัดพระครูสุนทรศีลวัตรเดินทางไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งฯ พร้อมทั้งขอส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นผู้นำโชคมาให้กับหลวงพ่อ หลวงพ่อจึงยินยอมจ่ายเงินให้ ต่อมานายอ้วนได้ให้หลวงพ่อนำเงินรางวัลฝากในบัญชีธนาคารกสิกรไทย ที่ศรีราชา โดยทางผู้จัดการธนาคารซึ่งเป็นเพื่อนกันกับนายอ้วน ได้ขอเงินหลวงพ่อจำนวน 3 แสนบาท โดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการทางธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งหลวงพ่อก็ยอมจ่ายเงินอีก นอกจากนี้ นายอ้วนได้พยายามขอเงินหลวงพ่อเพิ่มเติม แต่หลวงพ่อไม่ยินยอม นายอ้วนจึงออกอุบายพาเมียตัวเองไปหาหลวงพ่อถึงในวัดและได้ผลักหลวงพ่อเข้าไปในกุฏิกับเมียตัวเองแล้วพยายามใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปเพื่อแบล็กเมล์ แต่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเห็นเข้าจึงถ่ายคลิปเหตุการณ์วันดังกล่าวไว้ทำให้แผนการดังกล่าวไม่สำเร็จ
นายสงกรานต์กล่าวอีกว่า ส่วน น.ส.วรญากับพวกนั้นเมื่อทราบเรื่องว่าหลวงพ่อถูกรางวัลก็ได้ร่วมกับพวกรวม 10 รายเดินทางมาหาหลวงพ่อ แล้วอ้างว่าหลวงพ่อติดค้างค่าสลากกินแบ่งฯ กับพวกเขาจำนวน 8 แสนบาท โดยระบุว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินให้จะไปแจ้งความ ซึ่งหลวงพ่อก็ยืนยันว่าไม่เคยซื้อสลากกับ น.ส.วรญาและพวก กระทั่งมีการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา เอาไว้ รวมทั้งให้ข่าวกับสื่อมวลชนหลายแขนง และร้องเรียนต่อเจ้าคณะอำเภอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้หลวงพ่อได้รับความเสียหาย นอกจากนี้มีผลต่อการได้รับการพิจารณาเลื่อนสมณศักดิ์ของหลวงพ่ออีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.มาแล้วครั้งหนึ่ง และมีการฟ้อง น.ส.วรญากับพวกต่อศาลจังหวัดชลบุรี ในความผิดฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพื่อแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา บุกรุก ข่มขู่ และกรรโชกทรัพย์ ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำกันเป็นขบวนการเพื่อข่มขู่กรรโชกทรัพย์จากหลวงพ่อ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายจึงรับหน้าที่เป็นผู้แทนเข้าร้องทุกข์ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สิงห์กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ในเบื้องต้นพร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน โดยจะนัดหมายให้พระครูสุนทรศีลวัตร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษและนัดหมายสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เวลา 13.00 น.จากนั้นก็จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป