พะเยา - ตำรวจซ้อนแผนรวบแก๊งข่มขู่กรรโชกทรัพย์ได้คาหนังคาเขา อ้างตรวจสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตบทรัพย์เจ้าของร้าน ขู่ให้จ่ายเป็นร้านละ 500 บาท แลกถูกจับ-ปรับเป็นเงินแสน สุดท้ายสารภาพร่วมกับเพื่อนทำกันเป็นทีม และได้ผลแล้วหลายท้องที่
พ.ต.อ.นิธิพัฒน์พัฒนถาบุตร รอง ผบก.ภ.พะเยา และ พ.ต.ท.สุกฤษณ์ คำเวียงสา รอง ผกก.สส.ภ.จว.พะเยา แถลงข่าวผลการจับกุมนายสุริยันต์ ขันบรรจง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 168 หมู่ 1 ต.ตาอ๋อง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางธนบัตรที่ทำเครื่องหมายไว้ จำนวน 2,500 บาท เป็นฉบับละ 1,000 บาท 1 ฉบับ และ 500 บาท 3 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยมีเจ้าของร้านขายของชำในตลาดสดพะเยาอาเขต มาร่วมชี้ตัวผู้ต้องหาด้วย
ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุกฤษณ์ คำเวียงสา รอง ผกก.สส.จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากนายพิพัฒน์ คูชลธารา เจ้าของร้านคิดโฟนในตลาดสดพะเยาอาเขต ว่า มีชายไทยอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างผอมสูง พูดภาษากลาง ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุริยันต์ ขันบรรจง มาติดต่อกับผู้ประกอบการว่า เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ มาทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ที่มีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หากร้านใดถูกจับกุมจะต้องเสียค่าปรับรายละเป็นแสนบาท แต่ถ้ายินยอมจ่ายเงินให้แก่ตนร้านละ 500 บาท จะไม่มีการตรวจค้นจับกุม โดยให้นายพิพัฒน์ เป็นผู้รวบรวมเงินจากผู้ประกอบการต่างๆ แล้วให้ติดต่อกับตนทางโทรศัพท์เพื่อนัดหมายส่งมอบเงิน
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.สุกฤษณ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนวางแผนจับกุมโดยนำธนบัตรจำนวน 2,500 บาท ถ่ายเอกสารไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา นายสุริยันต์ ที่มาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายพิพัฒน์ ให้นำเงินไปมอบให้ที่ร้านกาแฟไอคอน ใกล้ศาลหลักเมือง เลขที่ 745/2 ถนนพหลโยธิน ต.เวียง อ.เมืองพะเยา ตำรวจกับนายพิพัฒน์ จึงได้นัดหมายกันก่อนนำเงินไปให้
เมื่อนายสุริยันต์ เดินเข้าไปในร้านกาแฟ และพูดคุยกับนายพิพัฒน์ พร้อมกับรับเงินจำนวนดังกล่าว ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าทำการจับกุมได้โดยละม่อม พร้อมแจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์
นายสุริยันต์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมบอกว่าเดินสายกับเพื่อนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า และตุ๊กตา จำนวน 4 คน โดยตนจะเป็นคนเข้าหาลูกค้าก่อนเพื่อแจ้งให้ทราบ และขอเงินค่าตอบแทน และหลายท้องที่แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร รอง ผบก.ภ.พะเยา กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าไปทั่วประเทศ แต่ยังไม่สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ ซึ่งทำกันเป็นทีม ตามปกติหากเจ้าของลิขสิทธิ์จะทำการตรวจค้นจับกุมร้านค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องเข้ามาประสานกับตำรวจท้องที่ก่อน และออกไปตรวจค้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย หากมีผู้ใดมาอ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่มีตำรวจร่วมไปด้วยให้แจ้งตำรวจใกล้เคียงจับกุมผู้แอบอ้างทันที เพราะเป็นแก๊งข่มขู่กรรโชกทรัพย์ พ.ต.อ.นิธิพัฒน์ ฝากเตือนไปถึงผู้ประกอบการร้านค้าตามตลาดสดทั่วไปด้วย