ตร.ฝากขังแขกอินโดฯ ร่วมกับคนไทย หลอกขายน้ำตาลทรายกว่า 1 หมื่นตัน ถึงเวลากลับเบี้ยวไม่ส่งมอบ เสียหาย 79 ล้านบาท พร้อมค้านประกันกลัวหลบหนี
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (15 พ.ย.) ร.ต.ต.ธิติ เปฎะพันธ์ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายนุกราฮา อัดมาจา อินตัน ปูตา สัญชาติอินโดนีเซีย อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงมาขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลครั้งแรก
โดยคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 ม.ค. - 18 ส.ค. 2548 นายบูดี นูโวโน ชาวอินโดนีเซีย ได้ขอซื้อน้ำตาลทรายจากผู้ต้องหารวม 3 รายการ จำนวน 11,924 ตัน มูลค่า 79 ล้านบาท โดยระบุให้ส่งสินค้าจากท่าเรือเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ไปประเทศอินโดนีเซีย และผู้เสียหายวางเงินมัดจำครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับไม่ยอมส่งน้ำตาลทรายไปยังปลายทาง จนถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2555 ที่ จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1940/2553 และแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและปลอมเอกสารสิทธิ
นอกจากนี้มีคนไทยอีก 10 รายได้ร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวง ซึ่งถูกตำรวจกองปราบจับกุมไว้แล้ว และต่อมาได้สรุปสำนวนฟ้องบริษัท เกรทมอเตอร์ จำกัด และบริษัท สุวรรณศรีทรานสปอร์ต ในข้อหาร่วมกันหลอกลวงและปลอมใบตราส่งครั้งนี้ด้วย ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า เนื่องจากได้ทำการสอบสวนแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานอีกหลายปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ รอผลการตรวจประวัติอาชญากร จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 พ.ย. นี้ รวมทั้งขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (15 พ.ย.) ร.ต.ต.ธิติ เปฎะพันธ์ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัวนายนุกราฮา อัดมาจา อินตัน ปูตา สัญชาติอินโดนีเซีย อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงมาขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลครั้งแรก
โดยคำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 ม.ค. - 18 ส.ค. 2548 นายบูดี นูโวโน ชาวอินโดนีเซีย ได้ขอซื้อน้ำตาลทรายจากผู้ต้องหารวม 3 รายการ จำนวน 11,924 ตัน มูลค่า 79 ล้านบาท โดยระบุให้ส่งสินค้าจากท่าเรือเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ไปประเทศอินโดนีเซีย และผู้เสียหายวางเงินมัดจำครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับไม่ยอมส่งน้ำตาลทรายไปยังปลายทาง จนถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2555 ที่ จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1940/2553 และแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและปลอมเอกสารสิทธิ
นอกจากนี้มีคนไทยอีก 10 รายได้ร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวง ซึ่งถูกตำรวจกองปราบจับกุมไว้แล้ว และต่อมาได้สรุปสำนวนฟ้องบริษัท เกรทมอเตอร์ จำกัด และบริษัท สุวรรณศรีทรานสปอร์ต ในข้อหาร่วมกันหลอกลวงและปลอมใบตราส่งครั้งนี้ด้วย ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย
ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า เนื่องจากได้ทำการสอบสวนแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานอีกหลายปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ รอผลการตรวจประวัติอาชญากร จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 พ.ย. นี้ รวมทั้งขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
