บก.น.8 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งโมฮอว์กที่ออกอาละวาดลักจักรยานยนต์ย่านฝั่งธนบุรี ก่อนนจนมุมโดน ตร.รวบได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่บางบอน
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ กก.สส.บก.น.8 พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.บางมด และ พ.ต.ต.เตชินท์ กาญจนคลอด สว.สส.สน.บางมด แถลงจับกุมตัว นายนิยม หรือป้อม ถานอ่อน อายุ 35 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาที่รับซื้อจักรยานยนต์ของกลางจากวัยรุ่นแก๊งโมฮอว์ก ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.671/2555 ลงวันที่ 30 ต.ค. 55 ข้อหารับของโจร สามารถจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่ซอยเอกชัย 66 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.รัษฎากรเปิดเผยว่า เนื่องจากกรณีในช่วงต้นเดือน ต.ค.ผ่านมา พบพฤติกรรมแก๊งปล้นรถจักรยานยนต์ฝั่งธนบุรี ออกอาละวาดโดยคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-17 ปี มีด้วยกัน 6 คน และบางส่วนตัดผมทรงโมฮอว์กใช้จักรยานยนต์ถอดป้ายทะเบียน 3 คัน และอาวุธปืนก่อเหตุมาแล้ว 3 คดีซ้อน ในท้องที่ สน.บางเสาธง บก.น.7 ท้องที่ สน.บางมด บก.น.8 และท้องที่ สน.แสมดำ บก.น.9 ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 5 ต.ค.นายบุญเสริม เพ็งปาน อายุ 46 ปี พนักงานเก็บสิ่งปฏิกูลฝ่ายรักษาความสะอาดเขตจอมทอง ก็เพิ่งโดนปล้นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก ไอ ทะเบียน ฬฬว-56 กรุงเทพมหานคร ไประหว่างขับขี่รถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทำงาน เหตุเกิดกลางถนนพระราม 2 ปากซอย 18 แขวงบางมด เขตจอมทอง โดยคนร้ายใช้วิธีขับขี่รถประกบซ้ายขวาและด้านหลังก่อนชักอาวุธปืนออกมาปล้นรถไปอย่างอุกอาจ ทำให้ตำรวจต้องตั้งชุดเฉพาะออกล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้แล้วทั้ง 6 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เหลือเพียงผู้รับซื้อรถอีก 1 คนที่ยังคงหลบหนี
พล.ต.ต.รัษฎากรกล่าวอีกว่า การจับกุมนายนิยมที่หลบหนีไปกบดานนานกว่า 1 เดือนในวันนี้ถือเป็นการปิดบัญชีแก๊งโมฮอว์กลงอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากหลังวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเกิดเหตุในท้องที่ สน.บางมด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาวัยรุ่น อายุระหว่าง 15-17 ปีได้ทั้งหมด โดยหัวหน้าแก๊งชื่อนายบอย (นามสมมติ) ตัดผมทรงโมฮอว์ก
จากการสอบสวนนายนิยมให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันทำธุรกิจเย็บผ้าแต่เมื่อมีโอกาสก็หาลำไพ่พิเศษด้วยการรับซื้อจักรยานยนต์ของกลางจากวัยรุ่นแก๊งดังกล่าวราคาคันละ 7,000-8,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบรถกันในพื้นที่ถนนเอกชัย จากนั้นตนจะขับขี่รถไปขายต่อให้เอเยนต์ชื่อนายหวาน (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุประมาณ 30 ปี ที่ขับรถวินรับจ้างอยู่ย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 ได้กำไรคันละ 2,000-3,000 บาท ที่ผ่านมาขายให้นายหวานไปแล้วจำนวน 12 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก และรุ่นเวฟ สำหรับภูมิลำเนาของนายหวานนั้นตนไม่ทราบข้อมูล รู้เพียงว่านายหวานมักจะพูดคุยโทรศัพท์เป็นภาษาเขมร ซึ่งรถของกลางอาจถูกส่งขายต่อให้พ่อค้าชาวกัมพูชาก็เป็นได้
เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดจับกุมเร่งประสานข้อมูลกับตำรวจท้องที่อื่นๆ ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเพื่อติดตามตัวผู้เสียหายมาอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมที่ สน.บางมด ต่อไป
