อาสาตำรวจบ้านปทุมธานี ปีนสกายวอล์กหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างน่าหวาดเสียว หลังร้องเรียนให้ สตช.ช่วยค่าซ่อมแซมรถยนต์ 1.2 แสนบาท หลังเมื่อปีกว่าๆ นำรถออกมาช่วยตำรวจจับแก๊งขโมยรถจนรถพังยับ แต่หาเจ้าภาพช่วยซ่อมรถไม่ได้ แจกใบปลิวประชดสังคมความดี “แล้วอย่างนี้ใครล่ะอยากจะเป็นคนดี”
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณทางเดินสกายวอล์ก หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรากร วิริยะกิจรุ่งเรือง อายุ 33 ปี อาชีพค้าขายก๋วยเตี๋ยว และเป็นตำรวจอาสาให้แก่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้นำป้ายผ้ามาติดบริเวณราวเหล็ก โดยข้อความระบุ ว่า ตนได้นำรถส่วนตัวไปช่วยตำรวจจับคนร้ายโจรกรรมรถยนต์ แต่ขณะทำการจับกุมได้ขับรถไปชนจนพังเสียหายต้องเสียค่าซ่อมแซมรถประมาณ 120,000 บาท แต่ตำรวจชุดจับกุมกลับไม่ให้ความช่วยเหลือ จึงมาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมกันนี้ นายศรากร ได้ปีนออกมานอกราวเหล็ก เพื่อประท้วงกรณีดังกล่าว จนสร้างความแตกตื่น และหวาดเสียวให้แก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรผ่านไปมา และที่เดินผ่านสกายวอล์ก รวมทั้งตำรวจสันติบาลที่ดูแลรักษาความปลอดภัยภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายศรากรปีนป่ายรั้วเหล็กได้แจกใบปลิว โดยมีข้อความระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน สภ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2554 เวลา 05.10 น. ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวช่วยงานตำรวจในการติดตามรถที่ถูกโจรกรรมจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่รถของตนเองได้ประสบอุบัติเหตุชนกับรถคนร้ายจนได้รับความเสียหาย และต้องจ่ายค่าซ่อม 1.2 แสนบาท ซึ่งตนเองต้องจ่ายเองทั้งหมด
“ตลอดเวลา 17 เดือนที่ผ่านมา ผมพยายามติดตามเรื่องนี้แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือผมได้เลย อยากบอกว่าเหนื่อยและท้อ จนทุกวันนี้ความรู้สึกที่อยากเป็นคนดี เป็นพลเมืองดีของสังคมมันเริ่มจะหมดไป จนบางครั้งคิดว่าวันนั้นถ้าเราเห็นแก่ตัว เรื่องบ้าๆ แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะมันทั้งเสียเวลา และเสียความรู้สึก ผมคิดว่าหากเป็นเช่นนี้คงไม่มีพลเมืองดีคนไหนที่อยากจะช่วยเหลือสังคม” นายศรากร ระบุในใบปลิว
โดย พ.ต.อ.เทียนชัย ปาคะปะโส ผกก.สน.ปทุมวัน ได้พยายามเข้าเจรจรากับนายศรากร ให้กลับเข้ามาบนทางเดิน โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่นายศรากรไม่ยินยอม ระหว่างนั้น ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรปิดการจราจรบนถนนพระราม 1 ซึ่งอยู่ด้านล่างให้เหลือเพียงช่องจราจรเดียว พร้อมประสานเบาะลมจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาเตรียมพร้อม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าชาร์จตัวนายศรากรไว้ได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งใจของบรรดาไทยมุง โดยตำรวจได้นำตัว นายศรากร ไปสงบสติอารมณ์ที่ สน.ปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายศรากร เคยเดินทางมาปีนทางเดินสกายวอล์กที่จุดนี้มาแล้วเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2554 เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว ซึ่งในครั้งนั้นตำรวจได้รับปากกับนายศรากร ว่าจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถให้ตามที่เจ้าตัวร้องขอ นอกจากนี้ นายศรากรยังเคยร้องเรียนเรื่องดังกล่าวที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนใจ กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว
