อดีตรองผกก.สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล มอบข้อมูลเครือข่ายไซฟ่อนเงิน 1.6 หมื่นล้านจากไทยไปฮ่องกงให้ผบ.ตร. โดยเชื่อว่า"ชัย ฟันเหล็ก และ "เจ้หุ้ง"น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน
วันนี้(22 ต.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผกก.สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ผ่านทาง พ.ต.อ.พงษ์สยาม มีขันทอง รองเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ข้อมูลบุคคลและเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศ อันเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำการฟอกเงิน ให้ตำรวจดำเนินการ
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนเองมาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้เป็นตัวแทนจากฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว ว่ามีการตรวจพบการไซฟ่อนเงิน จำนวน 16,000 ล้านบาท จากประเทศไทยไปยังฮ่องกง โดยน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณจากการบริหารราชการของรัฐบาล จากข้อมูลของตนเองหากมีการตรวจพบยอดเงินดังกล่าวนี้จริง ไม่น่าเป็นการไซฟ่อนเงินที่ต้องใช้ช่องทางตามระบบของสถาบันการเงิน อันตรวจสอบได้โดยภาครัฐ ซึ่งหลายฝ่ายยืนยันว่าไม่มีข้อมูลธุรกรรมของเงิน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า หากยอดเงินดังกล่าวมีการถ่ายโอนจริงจะเป็นลักษณะการฟอกเงิน ตนเองจึงนำข้อมูลที่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้อง ในการฟอกเงิน 16,000 ล้านบาท ซึ่งยอดเงินดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องดำเนินการมาหลายเดือนแล้วซึ่งกลุ่มบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวต้องมีกิจการเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ตนเองมีข้อมูลทราบว่ามีกลุ่มบุคคลบางคนที่เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ นายบ. และนางย. ซึ่งทั้งสองรายนี้พูดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ของฮ่องกง อย่างนางย.มีบ้านราคาหลัก 100 ล้าน มีรถราคาแพงจำนวนหลายคัน ส่วนนายบ.นายพลตำรวจบางท่านทั้งในอดีตและปัจจุบันก็รู้จัก
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ส่วนกิจการเครือข่ายรับแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โอนหรือรับโอนเงินต่างประเทศขาเขา-ขาออก จะมีบริษัทจำกัด ชื่อขึ้นต้นว่า" รุ่ง..." ตั้งอยู่บนพื้นที่เศรษฐกิจ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร บริษัทจำกัด"รุ่ง...." ตั้งอยู่พื้นที่เศรษฐกิจ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนเองนำข้อมูลมามอบให้ผบ.ตร.และรัฐบาลเพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าว หากรัฐบาลมีนโยบายในการสกัดกั้นการฟอกเงินจะทำให้บุคคลที่ทุจริตคอร์รัปชั่นไม่สามารถนำเงินออกไปฟอกได้ ที่ผ่านมายังไม่เห็นมีการดำเนินการิย่างจริงจังหากมีการดำเนินการอย่างจริงจริงตนเองก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลที่มีอยู่
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า อยากให้ผบ.ตร.ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบ การเดินทางเข้า-ออก ประเทศโดยเฉพาะเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปกลับ-ฮ่องกง หรือมาเก๊า และขอให้สั่งการให้กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจตรวจสอบกับกรมสรรพากรเกี่ยวกับ รายการชำระภาษีเงินได้บุุคคลธรรมดาและนิิติบุคคล ภาษีการค้า หรือภาษีประเภทใดๆตามประมวลรัษฎากร