xs
xsm
sm
md
lg

รวบเพิ่มเจ้าของร้านปุ๋ย โยงแก๊งปล้นทองบางปู

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผบ.ตร.ฟังบรรยายสรุปคดี 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทองบางปู
ผบ.ตร.ลงพื้นที่รับฟังบรรยายสรุปคดี 2 คนร้ายปล้นร้านทอง และกระทำการวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายเสียชีวิตไป 1 ศพ ส่วนอาสาสมัครจราจรถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน พร้อมควบคุมตัวเจ้าของร้านปุ๋ย ที่คาดว่ามีส่วนเชื่อมโยง 2 คนร้าย หลังพบหลักฐานเพิ่มเติม

วันนี้ (17 ต.ค.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมคณะ เดินทางมารับฟังบรรยายสรุปคดี 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชสาขา 8 ในหมู่บ้านบางปู นคร ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.55 ที่ผ่านมา พร้อมตรวจสถานที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านทองที่อาสามัครถูกยิงเสียชีวิต และบริเวณที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ โดยมี พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู และเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดภูธรบางปู ให้การต้อนรับ ณ สถานีตำรวจภูธรบางปู โดยก่อนเริ่มการประชุมผบ.ตร.ได้ทำมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ครอบครัวของ นายสมนึก จังพาณิช อาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงานตำรวจที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต โดยมี นางมณี จังพาณิช ภรรยาเป็นตัวแทนรับมอบ

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เปิดเผยว่า เดินทางมาในวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ โดยเบื้องต้นนั้นทราบว่า นายเดชา วงศ์ที่รัก ผู้ถูกกล่าวหา ยังให้การปฎิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุในครั้งนี้ บอกแต่เพียงว่าคนร้ายทั้ง 2 คน เป็นลูกน้องของตนที่มาช่วยขายปุ๋ยในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ภายหลังจากที่ตำรวจได้เข้าค้นที่บ้านพักในจังหวัดบุรีรัมย์ ก็พบหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันได้ ขณะนี้คงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และตอนนี้นายเดชาถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางปู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการเยียวยานั้นก็ได้มีการมอบเงินให้แก่ครอบครัว เป็นจำนวน 100,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นไปตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544

ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสำนักงานการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จัดการอบรมสัมมนาข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรขึ้นไป และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางร่วมกันในการบริการนักท่องเที่ยวและป้องกันปัญหาอาชญากรรมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของไทยในปี 2558 โดยมี พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ต อดิศร์ งามจิตสุขศรี รอง ผบช.ก พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท.และตัวแทนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เช่น นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง นายกสมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เป็นต้น เข้าร่วมสัมมนาเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว และมอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้เข้าร่วมการอบรม

พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) ในฐานะตัวแทน สตช.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า เนื่องจากในอีก 3 ปีข้างหน้า ไทยเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่มีเป้าหมายให้สามารถมีรายได้จากการท่องเที่ยวให้ได้ถึง 2 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ถึง 28 ล้านคน ภายในปี 2558 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ AEC โดยตรง ทั้งด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว จึงต้องมีการขับเคลื่อนหน่วยงานเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ AEC โดยดำเนินการพัฒนาบุคลากรให้เป็นรูปธรรมเช่นภาษาอังกฤษ ที่บุคลากรในสังกัดต้องสื่อสารได้อย่างเข้าใจภายใน 6 เดือน การจัดระบบงานและการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจะต้องเอาจริงเอาจังกับผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยจะใช้มาตรการทางภาษีอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ การสัมมนาในครั้งนี้ยังเป็นการกำหนดแนวทางและวางแผนในการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจท่องเที่ยวกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและเกิดความประทับใจ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศไทยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น