รวบโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์ชาวต่างชาติในสนามบินดอนเมือง

ผบช.น.แถลงจับกุมคนขับแท็กซี่ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติในสนามบินดอนเมืองแล้วหลบหนี พร้อมของกลางรถแท็กซี่ 1 คันที่ใช้ก่อเหตุ โดยสามารถติดตามนจับกุมตัวได้คาอู่แท็กซี่ย่านพระราม 2
วันนี้ (17 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงผลการจับกุมแท็กซี่ลักทรัพย์ชาวต่างชาติในสนามบินดอนเมือง คือ นายไชยวัฒน์ สืบพันธ์โพธิ์ อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์แท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทษ 1051 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และเครื่องแต่งกายจำนวนหนึ่ง สามารถจับกุมตัวได้ที่อู่รถแท็กซี่ย่านพระราม 2 วานนี้ (16 ต.ค.) โดยมีนายโนม เชตเตอร์ สัญชาติอิสราเอล ผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวคนร้าย

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แถลงว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.55 น. นายโนม เชตเตอร์ (Noam Shetter) อายุ 28 ปี สัญชาติอิสราเอล เดินทางมาที่สนามบินดอนเมืองเพื่อไปท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต โดยได้เรียกรถแท็กซี่มาจากโรงแรมที่พัก เมื่อไปถึงสนามบินดังกล่าวกำลังจะนำกระเป๋าเดินทางลงซึ่งอยู่ท้ายรถแท็กซี่ ทันใดนั้นรถแท็กซี่ได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนขับรถแท็กซี่ไม่ได้เก็บเงินค่าโดยสารและนำเอากระเป๋าเดินทางของผู้เสียหายไปด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งของพวกเอกสารและเสื้อผ้า

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า ต่อมา ผู้เสียหายได้เดินทางร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่มาดำเนินคดีโดยเร็ว จึงทำการสืบสวนติดตาม และจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ได้จับภาพรถแท็กซี่ สีชมพู หมายเลขทะเบียน นำหน้าเป็นตัวอักษร ท และมีตัวเลข 1 อยู่เป็นตัวหน้าและตัวสุดท้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนทราบว่ารถยนต์แท็กซี่คันก่อเหตุมีหมายเลขทะเบียนจริง คือ ทษ 1051 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่อู่รถแท็กซี่ย่านพระราม 2 พร้อมจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นห้องพัก พบเสื้อผ้าของผู้เสียหายในห้องพักเพิ่มเติมจึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ในวันเวลาดังกล่าวได้รับผู้โดยสารมาส่งที่สนามบินดอนเมืองจริง พอถึงตนได้บอกกับผู้เสียหายว่าให้ไปแลกเงินก่อน ซึ่งตนก็เดินไปพร้อมกับผู้เสียหายแต่เมื่อแลกเงินเสร็จ ตนได้เดินกลับมาที่รถแท็กซี่ก่อนพร้อมขับรถออกไปทันที โดยมีกระเป๋าเดินทางของผู้เสียหายติดมาด้วย นอกจากนี้ ยังเคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่จ.สมุทรปราการ ติดคุกมา 1 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2554 จึงหันมาขับรถแท็กซี่ ซึ่งการลักทรัพย์ชาวต่างชาตินั้นได้ทำเป็นครั้งแรก

ด้าน นายโนม ผู้เสียหาย กล่าวผ่านล่ามเพียงสั้นๆว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อ่ยางรวดเร็ว

พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเฝ้าดูแลชาวไทยและชาวต่างชาติตามจุดเสี่ยงในสนามบินดอนเมือง และมั่นใจว่าจะดูแลอย่างทั่วถึง พร้อมประสานกับทางท่าอากาศยานในการเฝ้าระวัง ซึ่งคดีนี้เป็นคดีแรกในการเปิดใช้สนามบินดอนเมือง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา”ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือหลบหนีเพื่อให้พ้นการจับกุม” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป