น้องสาวเสี่ยโรงงานปุ๋ย เดินทางเข้าร้องกองปราบปรามเพื่อให้ช่วยคลี่คลายคดีพี่ชายถูกยิงเสียชีวิตอย่างปริศนาในลานจอดรถวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เชื่อถูกฆาตกรรม ชี้ ตร.เจ้าของคดีด่วนสรุปฆ่าตัวตาย แฉถูก ตร.ไถค่าตรวจหาเขม่นดินปืน 2 หมื่นแต่คดีไม่คืบ!!
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.บุหลัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.5 บก.ป. เพื่อให้ช่วยคลี่คลายคดีที่นายจาตุรันต์ โรจน์เพียรสถิต อายุ 46 ปี พี่ชาย อยู่บ้านเลขที่ 19/9 หมุ่ 7 ต.บางกระสัน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อาชีพนักธุรกิจรับเหมาในโรงงานปุ๋ยเคมีเรือใบไวกิ้ง ปุ๋ยรุ่งอรุณ เจ้าของอู่แท็กซี่ เจ้าของสวนยาง และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตด้วยปืนลูกโม่ขนาด .32 ภายในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว ทะเบียน ณ-2031 กทม. เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถวัดไร่ขิง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 มีนาคม 2555 แต่มีคนพบศพเมื่อเช้าของวันที่ 3 มีนาคม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม มุ่งประเด็นไปที่การฆ่าตัวตาย โดยนำซีดีจากกล้องวงจรปิดภายในวัดวันเกิดเหตุจำนวน 2 แผ่น และผลชันสูตรของแพทย์มามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.บุหลันให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน ตนทราบว่าพี่ชายได้รับจำนำปืนกระบอกที่พบในรถวันเกิดเหตุจากลูกน้องคนหนึ่งในราคา 5,000 บาท ก่อนหน้านี้พี่ชายได้ไปไถ่ที่และปลูกบ้านให้ลูกชายของลูกน้องคนดังกล่าวที่ จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากสงสารเห็นว่าครอบครัวเขาลำบาก ต่อมาเมื่อเห็นว่าลูกชายของเขาเริ่มมีฐานะดีขึ้นมาบ้าง พี่ชายก็จะขอบ้านคืน นอกจากนี้ พี่ชายได้ไล่ลูกชายคนเล็กของเขาออกจากร้านคาร์แคร์ เพราะจับได้ว่าลูกชายเขาแอบยักยอกเงินไป ซึ่งประเด็นดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนไม่สนใจเรียกลูกน้องของพี่ชายมาสอบปากคำแต่อย่างใด
น.ส.บุหลันกล่าวต่อว่า หลังจากพี่ชายเสียชีวิตตนก็พยายามสอบถามความคืบหน้ากับทางพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้วตลอดเวลา แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด โดยตำรวจตั้งธงว่าเป็นเพียงแค่ฆ่าตัวตายเท่านั้น ทั้งนี้ตนพี่น้องทุกคนไม่เชื่อว่าพี่ชายจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย น่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่า เนื่องจากในวันเกิดเหตุมีคนโทรศัพท์มาหาพี่ชายให้ออกไปข้างนอก จากนั้นพี่ชายได้ไปเบิกเงินจากธนาคารมาจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจบอกว่าพบเงินสดในตัวพี่ชายเพียงแค่ 800 บาทเท่านั้น ทั้งนี้พี่ชายเคยเล่าให้ฟังว่าเคยถูกขู่ฆ่าและมีคนติดตาม ทำให้ต้องเปลี่ยนรถขับอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เคยมีคนขับรถปาดหน้าแล้วคว้ามีดลงมาจะทำร้ายแต่พี่ชายก็หนีเอาตัวรอดมาได้
“พี่ชายเป็นคนสนุกสนาน มองโลกในแง่ดี ก่อนหน้านี้พี่ชายพูดกับน้องๆ ตลอดว่าอย่าฆ่าตัวตายเพราะมันเป็นบาป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ดิฉันและพี่น้องเชื่อว่าน่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่า ทั้งนี้ฉันยังสงสัยว่าทำไมพี่ชายถึงไปฆ่าตัวตายในวัดทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่กลัวผีมาก นอกจากนี้สภาพศพของพี่ชายมีบาดแผลที่ใบหน้าอีกด้วย” น.ส.บุหลันกล่าว
น.ส.บุหลันกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือของพี่ชายสภาพถูกทำลาย ตนจึงนำไปให้ทางร้านตรวจสอบ ปรากฏว่าในวันเกิดเหตุมีการโทร.เข้าออกหลายสาย และจากการตรวจสอบภายในรถพบผ้าขนหนูสีเหลืองผืนเล็ก มีรอยลิปสติกหมาดๆ ติดอยู่บริเวณเบาะด้านข้างคนขับด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีผู้หญิงและคนอื่นอยู่ในรถด้วย แต่เมื่อตนได้นำหลักฐานดังกล่าวพร้อมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดภายในวัดไร่ขิงในวันเกิดเหตุ ซึ่งเห็นรถยนต์พี่ชายขับมาจอดบริเวณที่เกิดเหตุและมีคนอื่นอยู่ในรถด้วย และเห็นมีการต่อสู้กัน จากนั้นก็มีคนเปิดประตูรถออกมา ไปให้พบพนักงานสอบสวน แต่เขากลับกล่าวว่า “พี่ชายคุณฆ่าตัวตาย แล้วจะให้ทำอย่างไร ภาพจากกล้องดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไร” เมื่อถามถึงผลการชันสูตรศพ พนักงานสอบสวนกลับพูดว่าต้องเสียค่าใช้จ่าย ตนจึงจ่ายเงินให้ไปจำนวน 2 หมื่นบาท ค่าตรวจเขม่าดินปืนและใบชันสูตรศพ แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.เอนกกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการชันสูตรศพ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
