>>>ตรงเป้า
ศรรามา
วันตำรวจปีนี้มีทั้งคึกคักและครื้นเครง ที่ว่าคึกคักเพราะเป็นการต้อนรับนายใหญ่เป็นบิ๊กคนใหม่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้นำทัพสีกากี จึงต้องมีอะไรใหม่ๆ มาโชว์ นอกไปจากพิธีการที่เคยปฏิบัติทุกปี
นโยบายภาพรวมที่ พล.ต.อ.อดุลย์ประกาศ มองเผินๆ ก็เป็นเรื่องเก่า แต่ถ้าพิจารณาให้ดีไม่ใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญอะไรเลย ถ้าตำรวจปฏิบัติตามนโยบายนี้ได้แผ่นดินไทยก็จะร่มเย็นเป็นสุข เพราะสังคมไทยที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการกระทำของตำรวจ
พล.ต.อ.อดุลย์ขอให้ตำรวจทุกคนเป็น “ตำรวจมืออาชีพ” รับใช้ “สุจริตชน” อย่างเต็มความสามารถอย่างเสมอภาค ปฏิบัติตนตามแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว ให้ดำรงอยู่ได้ในสังคมอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี มีความรักสามัคคีในหมู่คณะ ร่วมกันกระทำความดีให้เป็นที่ยกย่องของสังคม
นี่คือภาพลักษณ์ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตัวจริง” เป็นตำรวจมืออาชีพ ไม่ใช่เอาอาชีพตำรวจบังหน้า แล้วเป็นโจรในเครื่องแบบ ที่ชาวบ้านเอือมระอาไปทุกหย่อมหญ้า ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ก็เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าประชาชนไม่รักตำรวจและเสื่อมศรัทธา ตำรวจก็อยู่ไม่ได้
ปีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญหัวหน้าตำรวจทุกประเทศในอาเซียน มาร่วมงานวันตำรวจไทย มีการเลี้ยงรับรองกันอย่างสมเกียรติ ประกาศให้มิตรประเทศเหล่านี้รับทราบว่า ตำรวจไทยพร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว พล.ต.อ.อดุลย์ยังกำชับให้ตำรวจทุกนายเตรียมความพร้อมโดยการศึกษาพัฒนาความรู้เกี่ยวกับประเทศอาเชี่ยน
ก็น่าชื่นชมในวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.อดุลย์ในเรื่องนี้ แต่ในทางปฏิบัติน่าจะประสบความสำเร็จน้อย เพราะปัจจุบันตำรวจส่วนใหญ่เกือบทุกระดับ รู้แต่ว่าตัวเองมีอำนาจในการจับกุมคุมขัง ถามว่ากฏหมายที่ผ่านรัฐสภาทุกฉบับ ทั้งนายและไพร่พลโดยเฉพาะตำรวจโรงพัก รู้กฏหมายเหล่านั้นหรือไม่ หรือถ้าถามว่ารู้จัก กต.ตร.ไหม ก็คงได้รับการส่ายหัวพอๆ กัน การให้ความรู้กับกำลังพลจึงเป็นเรื่องสำคัญ ก็แล้วทุกกองบัญชาการมีหน่วยงานที่เรียกว่า “ศูนย์ฝึกอบรม” เอาไว้ทำไม
ที่ว่าครื้นเครงก็เป็นเรื่องการจับกุมบ่อนไฮโลในซอยลาดพร้าว 71 ฉลองวันตำรวจ ชาวบ้านสมน้ำหน้าตำรวจเพื่อไทยพันธุ์ปากพล่อย ที่เคยยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า พื้นที่นครบาลไม่มีบ่อน แล้วความจริงมันก็ปรากฏ เก่งแต่โกหกเอาตัวรอด
ปฏิบัติการของ ฉก.สอบสวนกลาง เล่นเอาตำรวจโรงพักโชคชัยและ บก.น.4 อลวนอลเวงไปตามๆ กัน เพราะสื่อรายงานตรงกัน พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล รอง ผบก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นำกำลังคอมมานโดของสอบสวนกลางครึ่งร้อย ไปทลายบ่อน “เฮียตือ” เจ้าพ่อโชคชัย 4 ได้ผู้ต้องหา 71 เงินสด 2 แสน ไม่มีตำรวจโชคชัยร่วมจับกุม
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.ท.เทพรัตน์ สกุลมีฤทธิ์ รอง ผกก.ป.โชคชัย ทำได้แค่ชี้แจงว่าตำรวจโชคชัย ประสานงานกับชุดเฉพาะสอบสวนกลาง รวมทั้ง พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม สว.สส.โชคชัย อวดรู้ว่าบ่อนนี้ลักลอบเปิดมา 1 เดือน ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นบอกตรงกันว่า น่าจะเปิดมานานแต่เพิ่งเห็นผู้คนหนาตาเข้าออกในบ่อน เมื่อ 3-4 เดือนนี่เอง
ชาวบ้านยิ่งทวีความครื้นเครงผสมผสานกับความทุเรศเวทนา ก็เมื่อรู้ว่ามีบ่อนในพื้นที่ แล้วทำไมไม่จัดการ ทำไมต้องไปประสานกับสอบสวนกลาง
คราวนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.นครบาล ไม่ต้องเซ็นคำสั่งเอง แต่ พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต จัดการเด้ง พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.โชคชัย พ.ต.ท.เทพรัตน์ สกุลมีฤทธิ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม สว.สส. พ.ต.ต.บัณฑูร เทพสุวรรณ สวป. ไปช่วยราชการที่ บก.น.4 มีกำหนด 30 วัน
เรื่องเด้งดึ๋งช่วยราชการทำนองนี้ ไม่มีตำรวจหน้าไหนเกรงกลัวหรอก ครบ 30 วันก็กลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม มันน่าจะบอกกล่าวให้ชาวบ้านรู้บ้าง ถ้าสอบสวนแล้วมีความผิดจริง ได้ลงโทษตำรวจเหล่านั้นอย่างไรบ้าง
การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็เหมือนกัน มาถึงยุคนี้แล้วยังใช้วิธีการย่ำเท้ากับที่ อย่างคดีนี้แต่งตั้ง พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.4 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของโรงพักในพื้นที่ เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริง มันก็ถูกมองได้ว่าช่วยเหลือพวกเดียวกัน นอกจากนั้นรองผู้การทุกคนต่างก็มีงานประจำล้นมืออยู่แล้ว ยังต้องมาสอบลูกน้องของตัวเอง มองในแง่มุมไหนก็ไม่เข้าท่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ถ้ามีเหตุการณ์หรือคดีใดที่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สอบสวนวินัยร้ายแรง สมควรมอบให้สำนักงานจเรตำรวจ ทำหน้าที่นี้โดยตรง ส่วนการลงโทษลงทัณฑ์ตามข้อเสนอของจเรตำรวจ เป็นอำนาจของหน่วยงานต้นสังกัด เท่านี้ก็จะเก๋จะเท่ห์ยิ่งกว่า “กู๊ดสมาร์ท” ของ “บังเหลิม ขวานฟ้าหน้าดำ” เป็นไหนๆ
กล่าวถึงโรงพักนครบาลโชคชัย ซึ่งมีชื่อซ้ำกับโรงพักโชคชัยของจังหวัดนครราชสีมา โชคชัยของนครบาลตั้งทีหลัง โชคชัยของภูธร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปลี่ยนชื่อใหม่ได้แล้ว
โชคชัยนครบาลมีพื้นที่รับผิดชอบกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรร แต่ก็มีบ่อนพนัน มีสถานบันเทิงทั้งถูกกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต เป็นภักษาหารมังสาหารให้บริโภคตามฐานานุรูป
ในอดีตโรงพักโชคชัยเคยสร้างประวัติศาสตร์ เป็น “โบดำ” ประดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้ โดยชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นโรงพัก ไปรายงานตัวกับผู้กำกับการ ว่าเป็นร้อยตำรวจตรีได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรอง สวป. และคำสั่งจะตามมาภายหลัง ผู้กำกับการท่านนี้ก็มอบหน้าที่หัวหน้าสายตรวจให้หนุ่มคนนั้นทันที
หัวหน้าสายตรวจคนใหม่แต่งเครื่องแบบประดับยศร้อยตำรวจตรี เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ผ่านไปเกือบเดือน ก็ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งมาถึงโรงพัก สอบถามไปสอบถามมา กลายเป็นตำรวจเก๊ อยากเป็นตำรวจ ส่วนผู้กำกับการที่รับไอ้หนุ่มเข้าทำงาน ได้ดิบได้ดีเป็นพลตำรวจตรีเป็นผู้บังคับการไปแล้ว
คืนเดียวกับทลายบ่อนเสี่ยตือ ตำรวจโรงพักลาดพร้าวเหมือนจะได้กลิ่นชุดเฉพาะกิจสอบสวนกลางไปป้วนเปี้ยนในละแวกใกล้เคียง เลยออกจับบ่อนไฮโลได้ 2 บ่อน อยู่ท้ายตลาดแฮปปี้แลนด์ ปลายจมูกโรงพักลาดพร้าวนั่นเอง
ถึงวันนี้ ยังมีบิ๊กนครบาลหน้าไหนออกมารับประกันว่า “พื้นที่นครบาลไม่มีบ่อน” อีกไหม.