เกิดเหตุยิงคนตายอุกอาจดับคาบ้าน พื้นที่ สน.โคกคาม ตร.รุดตรวจสอบพบเป็นเศรษฐินีญาติดาราดังและเป็นเจ้าของบริษัททำป้ายโฆษณาให้พรรคการเมืองดัง ชาวบ้านระบุก่อนเกิดเหตุพบชายแปลกหน้าขี่ จยย.ตามประกบสะกดรอยทุกวัน ตร.ตั้งประเด็นชู้สาว และเป็นพยานในคดียุบพรรคการเมืองพรรคหนึ่งด้วย ทั้งความขัดแย้งอื่นๆ เป็นปมชนวนเลือด
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 1 ต.ค. พ.ต.ท. ธีรวุฒิ พิมพ์พิสัย พงส.(สบ 2) สน.โคกคราม รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 4/15 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 5 แยกที่ 9 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.โคกคราม, พ.ต.อ. นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.สส.น.2 บก.สส.บชน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพ น.ส.ฐรดา ทองเจือ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/15 เสียชีวิตอยู่บริเวณประตูเหล็กเลื่อนหน้าบ้าน สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล รองเท้าแตะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 4 นัด โดยนัดแรกเข้าที่ศีรษะ นัดสองและสามเข้าที่หน้าอก ส่วนนัดสุดท้ายถูกแขนซ้าย
การจากสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ฐรดาได้ขับรถฟอร์จูนเนอร์สีบรอนซ์ทอง ฎฟ 3687 กรุงเทพมหานคร ออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนเกษตรนวมินทร์ เพื่อกลับมายังบ้านพักดังกล่าว โดยมีน้องชายขับรถยนต์ตามมาอีกคัน แต่พอมาถึงบ้าน น้องชายของผู้ตายก็ได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นหลายนัดจึงคาดว่าน่าจะมีคนร้ายดักซุ่มรออยู่ก่อน พอผู้ตายลงจากรถเดินมาเปิดประตูบ้านจึงอาศัยจังหวะนั้นก่อเหตุทันที
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้วางแนวทางสืบสวนโดยเชิญญาติของผู้ตายที่อยู่ภายในบ้านพักไปสอบสวนยัง สน.โคกคราม และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 แล้ว ทราบว่าผู้ตายทำธุรกิจเกี่ยวกับป้ายไวนิล หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมถึงป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง อีกทั้งยังเป็นพยานในคดียุบพรรคการเมืองพรรคหนึ่งด้วย ส่วนเรื่องชู้สาวหรือปมขัดแย้งอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ออกทั้งสิ้น ส่วนนามสกุลของผู้ตายนั้นได้รับการยืนยันจากบุตรชายว่าเป็นญาติกับ ดารานักแสดงชื่อดังรายหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพยานซึ่งเป็นชาวบ้านละแวกใกล้เคียงระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชายแปลกหน้าสวมหน้ากากอนามัยปิดหน้ามิดชิด ใส่แว่นตาดำ ขับมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า นูโวสีดำ ไม่ทราบทะเบียนมาดักรอบริเวณหน้าบ้านเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์คนในบ้านอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 7 วัน ชายดังกล่าวมาเฝ้าอยู่แทบทุกวัน จึงเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้ อาจจะเป็นคนดูต้นทาง หรือเป็นมือปืนผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ต่อไป