xs
xsm
sm
md
lg

อดีตสามีเศรษฐินีป้ายโฆษณาถูกยิงดับเข้าให้ปากคำกับ ตร.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.ประชุมเร่งคลี่คลายคดี
ตร.เร่งคลี่คลายคดีเศรษฐินีเจ้าของร้านป้ายโฆษณา และร้านอาหาร ถูกยิงดับ พร้อมสอบปากคำอดีตสามีที่เดินทางมาพร้อมนายตำรวจคนสนิท ขอเข้าให้ปากคำตำรวจในฐานะผู้ให้ข้อมูล นานกว่า 3 ชั่วโมง ตร.สเกตช์ภาพคนร้ายลงมือยิงแล้ว แต่ยังไม่สามารถขออนุมัติหมายจับได้

วันนี้ (3 ต.ค.) เวลา 14.00 น.ที่ สน.โคกคราม นายกิตติชัย หรือ หน่อง เชาว์ชนพันธุ์ อายุ 47 ปี อดีตสามีของ นางฐรดา ทองเจือ อายุ 45 ปี นักธุรกิจร้านอาหารและป้ายโฆษณา ถูกกระหน่ำยิงเสียชีวิตหน้าบ้านตัวเอง ภายในซอยประเสริฐมนูญกิจ 5 แยก 9 เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พ.ต.อ.ภานุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ.(191) เป็นผู้พามา ซึ่งมี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.สมเกียรติ เริงหิรัญ รองผกก.สส.สน.โคกคราม ร่วมสอบปากคำ โดย นายกิตติชัย ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว และการสอบปากคำใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมง

พ.ต.อ.เจริญ เปิดเผยว่า นายกิตติชัย อดีตสามีของผู้ตาย เป็นบุคคลที่พนักงานสอบสวนจะต้องทำการสอบปากคำคลี่คลายคดี เนื่องจากมีเรื่องฟ้องร้องกับผู้ตาย ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อเพื่อมาให้ปากคำ จากนั้นก็จะออกหมายเรียก แต่ยังไม่มีหมายเรียกนายกิตติชัย ก็ติดต่อเพื่อเข้าให้ปากคำด้วยตนเอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สอบปากคำในฐานะพยาน หรืออดีตสามีคนที่ให้ข้อมูลเพื่อประกอบการสืบสวน

พ.ต.อ.เจริญ กล่าวอีกว่า ในการสอบปากคำนั้น ได้สอบถึงเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตาย สาเหตุที่เลิกราอย่าร้าง และความขัดแย้งอย่างอื่น โดย นายกิตติชัย ระบุว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของนางฐรดา เหตุที่ต้องเลิกกันก็เป็นฝ่ายผู้ตายที่เป็นคนขอเลิกไปเอง ส่วนเรื่องการฟ้องร้องก็อยู่ที่ชั้นศาล ทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย และในวันเกิดเหตุตนเองก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านย่านบางชัน ไม่ทราบเรื่อง เพิ่งมาทราบเรื่องตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรียกที่บ้านในคืนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาความเชื่อมโยงเหตุจูงใจ และทราบว่า มีนายกิตติชัย เป็นอดีตสามี จึงได้ติดต่อและตามไปเรียกที่บ้าน เพื่อสอบถามเป็นข้อมูล จึงทำให้นายกิตติชัย ทราบว่านางฐรดา อดีตภรรยา ถูกยิงเสียชีวิต แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นเวลาดึก นายกิตติชัย ไม่มั่นใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ที่ไปทำการเรียกตัวหน้าบ้าน จึงไม่กล้าออกมาพบ จึงโทรศัพท์ปรึกษาทนาย และปรึกษากับ พ.ต.อ.ภานุรัตน์ ซึ่งรู้จักเป็นการส่วนตัว

พ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจจะออกหมายเรียกอดีตสามีผู้ตายมาสอบ แต่พอเขาปรึกษาทนาย และ พ.ต.อ.ภานุรัตน์ แล้ว ก็ตัดสินใจมาให้ปากคำด้วยตัวเอง ก่อนจะถูกออกหมายเรียก แล้วก็ให้ พ.ต.อ.ภานุรัตน์ พามา และยืนยันว่า เขารู้จักเป็นการส่วนตัว ซึ่งไม่ได้มาวิ่งเต้นช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ นายกิตติชัย ยังไม่เป็นผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหา เป็นเพียงคนมาให้ข้อมูลในฐานะอดีตสามีผู้ตาย ซึ่งภายหลังสอปปากคำเสร็จก็กลับบ้านได้ตามปกติ ซึ่งทางนายกิตติชัยก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในส่วนที่เจ้าหน้าที่ถามเรื่องส่วนตัวและเรื่องของอดีตภรรยาก็ได้ให้ข้อมูลตามที่สอบถาม

“สำหรับแนวทางการสืบสวน ก็ยังให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นได้สเกตช์ภาพคนร้ายที่ต้องสงสัยก่อเหตุตามคำบอกเล่าของพยานแล้ว แต่ผู้ต้องสงสัยมีผ้าคาดปิดบังใบหน้าอยู่ตลอดเวลา สวมแว่นตา และใส่หมวกแก๊ป จึงทำให้ภาพที่สเกตช์ออกมาไม่ชัดเจน อีกทั้งกล้องวงจรปิดยังจับจุดคนร้ายไม่ได้ ทำให้ยากต่อการติดตามตัว หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม อาจจะสามารถสเกตช์ภาพได้ชัดเจนกว่านี้ ส่วนประเด็นปมสังหารนั้น ยังไม่มีประเด็นอื่นเพิ่มเติม และยังไม่ให้น้ำหนักในประเด็นใดเป็นพิเศษ ต้องรอการสอบสวนหลายๆ ส่วนให้ได้ข้อมูลที่บ่งชัดเสียก่อน” พ.ต.อ.เจริญ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เจริญ ได้แสดงภาพสเกตช์ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงนางฐรดา โดยย้ำกับสื่อมวลชนว่า ภาพสเกตช์ยังไม่ชัดเจน นำไปเป็นหลักฐานออกหมายจับไม่ได้ แต่ใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนได้ ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังเป็นเรื่องความขัดแย้งทางธุกิจ ทรัพย์สิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตสามี หรือบุคคลอื่นหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับประเด็นที่ผู้ตายเป็นพยานในการยุบพรรคการเมืองนั้น ยังเป็นประเด็นที่อ่อนไม่ถึงกับที่จะเป็นเหตุจูงใจในการฆ่า
ภาพสเก็ตคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น