xs
xsm
sm
md
lg

"อดุลย์"ส่งมอบตำแหน่งให้ "พงศพัศ" เลขาฯ ป.ป.ส.คนใหม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และอดีตเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมลงนามส่งมอบงานในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พร้อมทั้งมอบเสื้อ ป.ป.ส. และมอบพวงมาลัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และอดีตเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมลงนามส่งมอบงานในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พร้อมทั้งมอบเสื้อ ป.ป.ส. และมอบพวงมาลัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

วันนี้ (1 ต.ค.) เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และอดีตเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมลงนามส่งมอบงานในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พร้อมทั้งมอบเสื้อ ป.ป.ส. และมอบพวงมาลัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาตนทำงานอย่างมีความสุขแม้การทำงานจะมีความยากลำบากแต่ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรองเลขาธิการป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งนี้คนรู้สึกประทับใจพราะว่าป.ป.ส.เป็นหน่วยงานเล็ก แต่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่มีความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง มีการทำงานอย่างเป็นเอกภาพและบูรณาการร่วมกัน ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า พล.ต.อ.พงศพัศ เลขาฯ ป.ป.ส. คนใหม่ จะสามารถนำพาองค์กรให้ก้าวหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตามหลังจากตนเองเกษียณอายุราชการในปี 2557 ก็จะกลับมาช่วยงานที่ ป.ป.ส. ต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตนจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จะสานต่อปฏิบัติตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ท่านได้วางนโยบายไว้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการป้องกันและปราบรามยาเสพติดตามวาระแห่งชาติ การจับกุมผู้ค้าและผู้เสพ การบำบัดรักษา ป้องกันชุมชนเสี่ยง ยืนยันว่าจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามจุดมุ่งหมายของรัฐบาล และจะสนับสนุนการทำหน้าที่ของ ป.ป.ส. ให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศบริเวณสำนักงาน ป.ป.ส. มีเจ้าหน้าที่นำดอกกุหลาบมอบให้ พล.ต.อ.อดุลย์ และ พล.ต.อ.พงศพัศ เพื่อให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดแถลงข่าวภายหลังการเข้ารับมอบตำแหน่งว่า ได้เปิดแผนปฏิบัติการปิดล้อมเอ็กซเรย์เชิงรุก 90 วันตามโครงการ “ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน” ในพื้นที่ชุมชนเสี่ยง 12 แห่งทั่วประเทศ โดย ป.ป.ส.จะเป็นเจ้าภาพ ในการดำเนินการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 31 ธันวาคม 2555 โดยทั้ง 12 แห่งเป็น “ชุมชนนำร่อง” ที่ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบและทุกภาคส่วนในสังคม จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนอย่างครบวงจร เข้าถึงพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเอาชนะยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้สำหรับชุมชนนำร่องเป็นชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 3 แห่งได้แก่ “ชุมชนคลองเตย 70 ไร่ และล็อค 1-6” อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ท่าเรือ “ชุมชนฟื้นนครร่มเกล้าระยะ1 โซน 7” อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ร่มเกล้า และ “ชุมชนกลุ่มบ้านสมเด็จ” ในพื้นที่ของ สน.บางยี่เรือ ซึ่งมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดสูง

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางนโยบาย ป.ป.ส. จะปฏิบัติการเชิงรุก โดยในชุมชนคลองเตยจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบชุมชนรวม 58 ตัว โดยเฉพาะหน้าบ้านที่เชื่อว่ามีผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยรวม 48 จุด ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถติดได้แล้วเสร็จในวัน 7 ตุลาคมนี้ พร้อมทั้งจะมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการในชุมชนเชื่อมต่อกับสำนักงาน ป.ป.ส. และมีเจ้าหน้าที่ บก.สปพ. และ บก.อคฝ. คอยตรวจตราเดินเท้าตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อคอยเฝ้าระวังเหตุร้าย ระดมกำลังในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ารายย่อย การคัดกรองผู้เสพที่เป็นผู้ป่วยเพื่อการฟื้นฟูบำบัดรักษา การดูแลเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อหลีกพ้นยาเสพติดการติดตามดูแลผู้ป่วยหลังการบำบัด ตั้งจุดตรวจค้ายานพาหนะบริเวณทางเข้าและออกของชุมชน ส่วนชุมชนใกล้เคียงก็จะมีการปิดล้อมตรวจค้นเป็นระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดมีการแพร่ระบาดออกไป ปราบปรามไม่มีผู้ค้ารายย่อยในชุมชน ให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดและกลับใจ เมื่อครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ ชุมชนทั้ง 12 แห่ง จะต้องเป็นชุมชนสีขาวปราศจากยาเสพติด และส่งมอบคืนให้กับผู้นำชุมชนต่อไป

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 9 ชุมชน ประกอบด้วย “ชุมชนไผ่เขียว” อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา “ชุมชนบ้านมาบสามเกลียว” อ.เมือง จ.ชลบุรี “ชุมชนบ้านหนองตะลุมปุ๊ก” อ.เมือง จ.นครราชสีมา “ชุมชนบ้านหนองปลาเข็ง” อ.เมือง จ.ขอนแก่น “ชุมชนบ้านโป่งน้อย” อ.เมือง จ.เชียงใหม่ “ชุมชนเสือทิม” อ.เมือง จ.พิษณุโลก “ชุมชนบ้านแหลมชะอุย” อ.บางเลน จ.นครปฐม “ชุมชนบ้านเหนง” อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ “ชุมชนบ้านทุ่งโพธิ์” อ.นาหม่อม จ.สงขลา ก็จะปฏิบัติในแนวทางเดียวกันโดยประสานให้ชุดสืบของภาคต่างๆเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ชุมชนทั้ง 12 แห่งดังกล่าว ถือเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่ ป.ป.ส. จำเป็นจะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในระดับที่น่าเป็นห่วง มีพ่อค้ารายย่อยที่จะต้องเร่งรัดปราบปรามจับกุม ส่วนผู้เสพที่ถือว่าเป็นผู้ป่วย ก็จะต้องคัดกรองเพื่อนำไปบำบัดรักษาและฟื้นฟูโดยเร่งด่วน นอกจากนี้แล้วผู้ที่ผ่านกระบวนการบำบัดฟื้นฟูและกลับเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนจำเป็นจะต้องติดตามดูแล และให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีอาชีพการงาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่กลับไปเสพยาเสพติดอีก กลับคืนมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ และเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคตด้วย

“สำหรับการปฏิบัติงานของ ป.ป.ส. ในภาพรวมสำหรับปี 2556 จะยังคงทำหน้าที่บริหารจัดการอย่างบูรณาการ เพื่อส่งเสริมให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศให้เป็น “วาระแห่งชาติ” โดยการปฏิบัติจะเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ “ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ” ที่ ร.ต.อ. ดร. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ไว้ คือ “7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง” พร้อมทั้งสานงานต่อจาก พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.ยธ. และ พล.ต.อ.อดุลย์ ที่ได้วางแนวทางไว้เป็นอย่างดี” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น