แม่ร้องตำรวจกองปราบสางคดีลูกสาววัย 14 ตกคอนโดฯ ดับปริศนา ชี้ตำรวจ สน.บางนาด่วนสรุปคดีเกินไป มั่นใจไม่น่าเป็นอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตายแน่นอน เผยปมฆาตกรรมชิงทรัพย์เงินสด 4 หมื่นบาท ชี้หลักฐานผ้าม่านถูกปิดตายทั้งๆ ที่ลูกสาวเป็นคนกลัวความมืด และระวังตัวแต่วันเกิดเหตุห้องดันไม่ได้ล็อก
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. น.ส.ปาระมี ทรัพย์มี อายุ 38 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.ปิ่นสุดา ทรัพย์มี อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง บุตรสาวของ น.ส.ปาระมี ซึ่งพลัดตกจากบริเวณห้องพักเลขที่ 9/225 ชั้น 10 อาคารเอ ไอดิโอมิกซ์ คอนโด 103 ติดสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข แขวงและเขตบางนา กทม.เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยนำภาพถ่ายผู้เสียชีวิต และบริเวณห้องที่เกิดเหตุ รวมทั้งจุดที่ร่าง ด.ญ.ปิ่นสุดา ติดอยู่ที่ลานชั้น 4 ของอาคารดังกล่าว มอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการพิจารณา
น.ส.ปาระมี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ทางตำรวจ สน.บางนา เจ้าของพื้นที่ได้เข้าตรวจสอบเหตุ และมีการเก็บหลักฐานต่างๆ แต่การดำเนินการล่าช้า ประกอบกับยังไม่มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ รวมทั้งการประสานขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่เกิดเหตุ โดยทางตำรวจให้เหตุผลเพียงว่า ขณะนี้ยังต้องรอผลการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตจากสถาบันนิติเวช แต่ตนมั่นใจว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ บริเวณรั้วระเบียงห้องก็สูงเกินครึ่งตัวลูกสาว ที่ว่าน่าจะเซฟ หรือพลัดตกก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และลูกสาวไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เรื่องการเรียนเพราะเป็นคนเรียนเก่ง หรือแม้แต่เรื่องแฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่ซึ่งก็อยู่ในสายตาของตนตลอดเวลา นอกจากนี้ ลูกสาวก็กำลังจะเข้าประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลกับทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 อีกด้วย
“ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยจะขอให้โอนสำนวนคดีนี้มาให้กองปราบปรามดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว เพราะเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมทางคดีมากกว่าการดำเนินการของตำรวจท้องที่ ซึ่งได้ปรึกษากับทนายความแล้วก็พบว่าจริงๆ แล้วทางพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ ไม่จำเป็นต้องรอผลการชันสูตรศพออกมาแล้วค่อยสอบปากคำ หรือรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพราะสามารถดำเนินการได้ทันที และหากเป็นเหตุฆาตกรรมก็จะทำให้การสืบสวนสอบสวนดำเนินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว” น.ส.ปาระมี กล่าว
น.ส.ปาระมี กล่าวต่อว่า เหตุที่ยังมั่นใจว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมเพราะผ้าม่านในห้องถูกปิดทั้งที่ปกติลูกสาวเป็นคนกลัวความมืด และจะระมัดระวังตัวมาก เมื่อเข้าห้องแล้วก็จะล็อกประตู แต่วันเกิดเหตุพบว่า ประตูห้องไม่ได้ล็อก ส่วนทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 4 หมื่นบาท ก็สูญหายไปหลังเกิดเหตุ แม้ว่าโทรศัพท์ และแล็บท็อปยังอยู่ครบ แต่ข้าวของต่างๆ ในห้องมีร่องรอยถูกรื้อค้น และที่สำคัญคือ ทางนิติบุคคลห้องพักอาคารชุดแห่งนี้ได้แจ้งแก่ตนก่อนหน้านี้ว่าขอให้นำกุญแจสำรองไปให้เพราะได้ติดต่อช่างมาซ่อมห้องน้ำห้องพัก แต่ภายหลังเมื่อนำกุญแจไปให้แล้ว กลับไม่พบว่ามีการลงบันทึกเบิกกุญแจห้องไปให้ช่างมาซ่อมห้องน้ำตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ตนก็มีความติดใจสงสัยในหลายเรื่องที่ขัดแย้งกับการดำเนินการของตำรวจท้องที่ จึงต้องขอความเป็นธรรมให้แก่ลูกสาวด้วย
ด้าน พ.ต.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า ได้รับเรื่องและรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว หลังจากนี้ จะประสานกับทาง สน.บางนา เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม รวมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุต่อไป