ชาวแอลจีเรียฆ่ากันตายในห้องพักย่านทุ่งครุ แทงเพื่อนร่วมชาติพรุนกว่า 20 แผล หลังมีปากเสียงกันรุนแรงในห้อง แต่ขณะหลบหนีดันหยิบหนังสือเดินทางผิด โดยนำเอาหนังสือเดินทางของผู้ตายไปแทน ตำรวจเชื่อมือมีดยังคงกบดานอยู่ในเมืองไทย
วันนี้ (15 พ.ค.) เวลา 13.00 น. พ.ต.ต.แดนชัย พันธุ์ชา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในหอพักชื่อฟริเดาซ์ ตั้งอยู่เลขที่ 18 หมู่ 1 ซ.ประชาอุทิศ 69/1 ถ.ประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ศุภชัย สมัยพาณิชย์ ผกก.สน.ทุ่งครุ พ.ต.ท.ญาณวุฒิ เลี่ยมแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารหอพัก สูง 4 ชั้น บริเวณชั้น 4 ห้อง 409 เจ้าหน้าที่พบศพชายชาวต่างชาติ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงกีฬาสีดำ สภาพศพนอนตะแคงขวา มีเลือดกระจัดกระจายตามพื้นห้อง พบบาดแผลถูกแทงเข้าตามร่างกายประมาณ 20 แผล ไส้ทะลักกองกับพื้น ยังพบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ พบหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายโมฮัมหมัด บูบากัส อายุ 43 ปี สัญชาติแอลจีเรีย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมง
จากการสอบสวน นายไพโรจน์ นิมา อายุ 36 ปี ผู้ดูแลอาคารหอพัก เปิดเผยว่า ห้องดังกล่าวมีนายโมฮัมหมัด บูบากัส เป็นผู้มาเช่าอาศัยประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว และอาศัยอยู่เพียงลำพัง ในวันเกิดเหตุเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. นายโมฮัมหมัด บูบากัส ได้พาผู้ตายซึ่งคาดว่าน่าจะรู้จักกันกลับมาพักที่ห้องด้วย ต่อมาเวลาประมาณ 04.00-05.00 น. ของวันจันทร์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีคนได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทภายในห้องที่เกิดเหตุและก็เงียบหายไป จนช่วงเวลา 07.00 น. มีชาวบ้านเห็นนายโมฮัมหมัด บูบากัส ออกจากหอพักไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผู้พักอาศัยห้องข้างเคียงเห็นว่าห้องดังกล่าวถูกแม่กุญแจล็อกจากด้านนอก และเห็นคราบเลือดติดเต็มผ้าม่าน จึงรีบมาบอกตนให้นำอุปกรณ์มาตัดแม่กุญแจเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีศพถูกฆ่าตายหมกอยู่ในห้องดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางอาคารพบว่า เมื่อเวลา 22.41 น.ของวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา กล้องสามารถจับภาพผู้ตายสะพายเป้เดินตามหลังนายโมฮัมหมัด บูบากัส ขึ้นไปพักบนห้องด้วย โดยคาดว่าระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในห้องคงเกิดมีปากเสียงกันอย่างหนักทำให้เจ้าของห้องชักมีดกระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิตอนาถ อีกทั้งขณะเก็บข้าวของเตรียมตัวหลบหนีมือมีดก็น่าจะลนลานมากทำให้หยิบหนังสือเดินทางไปผิดเล่ม โดยหยิบของผู้ตายไปแต่ของตัวเองดันลืมทิ้งเอาไว้ จึงเชื่อว่าคนร้ายรายนี้คงยังหลบหนีกบดานอยู่ในเมืองไทยไม่สามารถเดินทางไปนอกประเทศได้ซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป