หนุ่ม จยย. เลือดร้อน! กระหน่ำยิงสองพนักงานโรงพิมพ์การศาสนาเสียชีวิต จากปมเหตุขับรถเฉี่ยวชนกันแล้วตกลงกันไม่ได้ เจ้าหนุ่ม จยย.เลยซิ่งไปเอาปืนย้อนกลับมายิงดับทั้งคู่ ก่อนเผ่นหนี ขณะที่ตำรวจเรียกพยานเห็นเหตุการณ์สอบเข้มติดตามจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 11.40 น. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ช่างคำ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณโรงพิมพ์วรรณชาติ เลขที่ 60/24 หมู่ 6 ถ.เอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตบางบอน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงษ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อปพร. เขตบางบอน และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงพิมพ์ดังกล่าว ฝั่งตรงข้ามซอยเอกชัย 76 บนทางฟุตปาธติดปากทางเข้าโรงพิมพ์ พบศพนายลำไย มณีวงศ์ อายุ 38 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 2 นัด และที่ศีรษะ 1 นัด เสียชีวิต ใกล้กันพบศพนายสำลี ทองพุ่ม อายุ 39 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล รองเท้าแตะ สวมนาฬิกาข้อมือซ้าย สภาพศพนอนหงาย ลำตัวท่อนบนพาดลงมายังพื้นผิวจราจรช่องซ้ายสุด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน บริเวณลำตัว 5 นัด ทะลุหลัง 2 นัด ทั้ง 2 คนเป็นพนักงานของโรงพิมพ์การศาสนา และมีรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊ก เอ็ม สีเขียว หมายเลขทะเบียน บย 6411 นครปฐม ประตูด้านซ้ายมีรอยบุบจอดอยู่ริมถนน นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 8 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.รัษฎากรเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายสำลีและนายลำไย ซึ่งเป็นคนขับได้เลี้ยวรถเข้าส่งหนังสือในโรงพิมพ์ดังกล่าว เป็นจังหวะที่มีรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ ขับขี่มาทางตรง ซึ่งมีลักษณะแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหารขับอยู่เลนซ้ายสุด คาดว่าคนขับรถกระบะคงมองไม่เห็น จึงทำให้รถทั้ง 2 คันชนกันบริเวณหน้าทางเข้าพอดีและได้เจรจากัน แต่อาจพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ทำให้ชายแต่งกายคล้ายทหารนั่งรถ จยย. รับจ้างออกไปจากบริเวณดังกล่าวและย้อนกลับมาพร้อมใช้อาวุธปืนยิงทั้งคู่จนเสียชีวิต และขับรถของตนเองที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุหลบหนีไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะเรียกพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมและจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่โดยรอบและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรวบรวมหลักฐานรายละเอียดในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 11.40 น. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ช่างคำ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณโรงพิมพ์วรรณชาติ เลขที่ 60/24 หมู่ 6 ถ.เอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตบางบอน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงษ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อปพร. เขตบางบอน และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าโรงพิมพ์ดังกล่าว ฝั่งตรงข้ามซอยเอกชัย 76 บนทางฟุตปาธติดปากทางเข้าโรงพิมพ์ พบศพนายลำไย มณีวงศ์ อายุ 38 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณลำตัว 2 นัด และที่ศีรษะ 1 นัด เสียชีวิต ใกล้กันพบศพนายสำลี ทองพุ่ม อายุ 39 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล รองเท้าแตะ สวมนาฬิกาข้อมือซ้าย สภาพศพนอนหงาย ลำตัวท่อนบนพาดลงมายังพื้นผิวจราจรช่องซ้ายสุด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน บริเวณลำตัว 5 นัด ทะลุหลัง 2 นัด ทั้ง 2 คนเป็นพนักงานของโรงพิมพ์การศาสนา และมีรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊ก เอ็ม สีเขียว หมายเลขทะเบียน บย 6411 นครปฐม ประตูด้านซ้ายมีรอยบุบจอดอยู่ริมถนน นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 8 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.รัษฎากรเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายสำลีและนายลำไย ซึ่งเป็นคนขับได้เลี้ยวรถเข้าส่งหนังสือในโรงพิมพ์ดังกล่าว เป็นจังหวะที่มีรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ ขับขี่มาทางตรง ซึ่งมีลักษณะแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหารขับอยู่เลนซ้ายสุด คาดว่าคนขับรถกระบะคงมองไม่เห็น จึงทำให้รถทั้ง 2 คันชนกันบริเวณหน้าทางเข้าพอดีและได้เจรจากัน แต่อาจพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ทำให้ชายแต่งกายคล้ายทหารนั่งรถ จยย. รับจ้างออกไปจากบริเวณดังกล่าวและย้อนกลับมาพร้อมใช้อาวุธปืนยิงทั้งคู่จนเสียชีวิต และขับรถของตนเองที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุหลบหนีไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะเรียกพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมและจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่โดยรอบและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรวบรวมหลักฐานรายละเอียดในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป