ปคม.จับแม่เล้าหลอกสาวไทยไปขายตัวที่บาห์เรน อ้างทำงานได้ค่าจ้างสูง เผยไปถึงจะถูกคุมตัวยึดหนังสือเดินทาง บังคับค้ากามตามสถานบริการกับชาวตะวันออกกลาง เตือนหญิงไทยเดินทางไปทำงานบาห์เรนตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ปคม. และพ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.ดุจดาว หรือแชมเปญ ยาระนะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลเพื่อการค้าประเวณี โดยสามารถจับกุมได้ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต
พ.ต.อ.ประเสริฐเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา มีหญิงไทยซึ่งตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรนได้โทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ของประเทศบาห์เรน ก่อนที่จะมีการประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศของไทย และตำรวจ บก.ปคม. จากนั้นจึงได้มีการประสานข้อมูลให้ตำรวจประเทศบาห์เรนเข้าช่วยเหลือสาวไทยที่มีทั้งหมด 11 ราย ภายในห้องพักเลขที่ 506 ฟารีด 4 อพาร์ตเมนต์ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ทั้งนี้ หลังจากผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว หนึ่งในผู้เสียหายได้แจ้งความที่ บก.ปคม.เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.ดุจดาว และ น.ส.เบญจวรรณ หรือหนึ่ง พรมมา อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1488/2555 โดยทั้งสองร่วมเดินทางกลับไทยมากับผู้เสียหายด้วย
“ผู้เสียหายที่แจ้งความเอาไว้นั้นได้ให้การว่า น.ส.ดุจดาว และ น.ส.เบญจวรรณ เป็นผู้ที่ควบคุมตัวเหยื่อสาวชาวไทยในขณะที่พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในประเทศบาห์เรน โดยจะยึดหนังสือเดินทางเอาไว้ และมีการติดต่อกับ นางแพท (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) สาวไทยซึ่งมีสามีเป็นชาวบาห์เรน โดยนางแพทจะเป็นผู้บังคับหญิงสาวให้ไปค้าประเวณีตามสถานบริการต่างๆ ในประเทศบาห์เรน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ น.ส.ดุจดาว และ น.ส.เบญจวรรณ ก่อนจะสามารถติดตามจับกุม น.ส.ดุจดาว ในระหว่างกำลังจะเดินทางไปประเทศบาห์เรน ที่สนามบินภูเก็ต ส่วน น.ส.เบญจวรรณยังอยู่ระหว่างหลบหนี” รองผบก.ปคม.กล่าว
พ.ต.อ.ประเสริฐกล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนของตำรวจพบว่าขบวนการหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน มีตัวการใหญ่ซึ่งจะไม่ลงมาเกี่ยวข้องในการกระทำผิด แต่จะใช้หญิงสาวที่สมัครใจไปทำงานไปหลอกลวงเหยื่อ โดยมักจะอ้างว่าเคยไปทำงานซึ่งได้รับค่าจ้างหรือผลตอบแทนสูง สามารถเดินทางไปกลับได้เมื่อไม่ต้องการทำงานต่อ หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะถูกบังคับให้ค้าประเวณี อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.อยู่ระหว่างเร่งขยายผลการจับกุมไปยังกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์รายอื่น และพบว่าในส่วนของการหลอกลวงเดินทางไปยังประเทศบาห์เรน นั้น ยังมีอีกหลายกลุ่ม จึงอยากฝากเตือนไปยังหญิงสาว หรือผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปทำงานในประเทศบาห์เรน หรือประเทศต่างๆ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน และอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างชักจูงใจเหล่านี้เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อขบวนการดังกล่าว สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกผู้ต้องหาหลอกลวง สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ บก.ปคม. หรือแจ้งข้อมูลเบาะแสได้ที่ บก.ปคม.สายด่วน 1191 เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดต่อไป