“จรัมพร” ออกโรงยืนยันผลตรวจการชันสูตรเบื้องต้น “ภาวนา” เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุไม่ได้ถูกฆาตกรรม ชี้รอผลตรวจสารพิษในร่างกายถูกวางยาก่อนเสียชีวิตหรือไม่ อีก 1 สัปดาห์ทราบผล ยังไม่ตัดประเด็นมรดกพันล้านรอผลสอบสวนลงลึกอีกครั้ง
วันนี้ (13 ก.ย.). ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวถึงการสรุปผลความคืบหน้าการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์คดีการเสียชีวิตของ น.ส.อรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง หรือภาวนา ชนะจิต อายุ 69 ปี อดีตดาราชื่อดังว่า ภายหลังจากผลการตรวจทางนิติเวชที่สำคัญพบว่า มีบาดแผลบนใบหน้า เป็นรอยรูปโค้งบริเวณใบหน้า และปลายจมูก ฟกช้ำบริเวณเหงือกตรงกับโคนรากฟัน รวมถึงมีแผลฟกช้ำ และถลอกตามร่างกายหลายแห่ง โดยไม่ได้เกิดจากการทำร้าย ส่วนสภาพศพภายในนั้นพบว่า ปอดบวมน้ำมาก เส้นเลือดที่ฐานสมองแข็ง และหนาตัวร้อยละ 70 พบหย่อมเนื้อตายสีขาวที่ผนังห้องล่างซ้าย เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจหนาตัวพบร้อยละ 50 ส่วนหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจบริเวณขั้วหัวใจค่อนข้างตีบ ทั้งนี้ การหาสารพิษตกค้างทำให้เกิดอาการมึนเมาหรือไม่ ที่ได้จากสันนิษฐานว่าจะมีการวางยาด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทางพิษวิทยาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า ระยะห่างระหว่างถังวางบัวห่างจากจุดริมบ่อน้ำที่คาดว่าจะตกลงไปแนวระนาบประมาณ 120 ซม. เมื่อผู้ตายตกลงในแนวดิ่งระยะก็ห่างประมาณ 130 ซม. โดยที่ผู้ตายสูง 165 ซม. ซึ่งบ่อน้ำมีความสูงประมาณ 190 ซม. ผู้ตายยืนปลายเท้าห่างจากขอบบ่อน้ำดังกล่าวประมาณ 30 ซม. เป็นเหตุผลที่สอดรับกับการสันนิษฐานถึงระหว่างที่ผู้ตายได้นั่งลงบริเวณริมขอบสระให้อาหารปลา น่าจะเกิดอาการหน้ามืดทำให้ศีรษะทิ่มลงไป เอามือ 2 ข้างจับ และปากไปกระแทกขอบแท่นดังกล่าว เนื่องจากมีร่องรอยบริเวณที่เหงือก จากนั้นใบหน้าไปกระแทกเข้ากับไม้อัดดังกล่าว
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวอีกว่า ส่วนหลอดลมที่ตรวจสอบไม่มีฟองอากาศ แสดงว่าผู้ตายจมน้ำภายหลังจากตกลงไปในบ่อ จึงทำให้การที่น้ำเข้าไปในปอดขังอยู่ทันที หลังจากสูบน้ำออกแล้ว ตรวจสอบบริเวณแก้มซ้าย เพราะเป็นแผลที่ฉกรรจ์มากกว่าแผลจุดอื่นๆ โดยมีความกว้าง 3.5 ซม. ตรงกันกับวัตถุทรงกระบอกแนวเดียวกันกับถังวางบัวหลังนำมาตรวจสอบวัดขนาด แพทย์ตรวจสอบแล้วร่องรอยเข้ากันได้ ซึ่งเป็นไม้อัดแช่น้ำม้วนเป็นวงกลมที่ตอนแรกทางญาติคิดว่าเป็นร่องรอยของการถูกทำร้าย นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยด้านขวา และซ้ายของขอบถัง ตรงกันเป็นลักษณะเดียวกับการสันนิษฐานของมือที่ไปโดน เพราะตะไคร่บนฝาถังหลุดลอกไป และฝาถังดังกล่าวเคลื่อนไปเล็กน้อย ขณะเดียวกัน ภายหลังการชันสูตรปากแผลมีแผลบริเวณเหงือก หรือโคนฟันและจมูก เป็นร่องรอยของการกระแทกของที่มีสัน เมื่อลองวัดระยะดูมีความคล้ายคลึงกันกับบริเวณขอบถังดังกล่าว
สำหรับสาเหตุที่ว่ามีการทำร้ายแล้วตกลงไปในน้ำหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า จากการตรวจบาดแผลจากการชันสูตรยังไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ภายหลังจากที่แพทย์ตรวจสอบแล้ว เป็นเพียงบาดแผลที่ถูกการกระทบกระแทกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเป็นการทำร้ายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังน่าจะเสียหายมากกว่านี้ นอกจากนี้ บริเวณบ้านผู้ตายดังกล่าวที่ระเบียงพบรอยเท้าที่มีฝุ่นเข้ามาเกาะอยู่ เพราะอยู่ใกล้กับถนน จึงได้นำรองเท้าสีชมพูเบอร์ 4 ของผู้ตายมาทำการตรวจสอบพบว่า มีรอยเท้าตรงกับลักษณะที่พบอยู่ภายในบริเวณบ้าน โดยที่ไม่มีร่องรอยของบุคคลอื่นอยู่ภายในบ้าน เพราะผู้ตายไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้ามาบริเวณบ้าน จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า ผู้ตายได้ถือกระจาดให้อาหารปลานิลที่เลี้ยงไว้ หรือเข้ามาไหว้ศาลเจ้าแม่นมสาว ลักษณะนั่งยองๆ นั่ง แล้วอาจจะพยายามยืนในท่าขาชิดกันทำให้สมดุลของร่างกายมีปัญหา ดูจากภาพที่ปรากฏมีลักษณะโน้มตัวไปข้างหน้า จึงทำให้แรงกดไปอยู่ที่บริเวณนิ้วเท้ามากกว่าส้นเท้า แพทย์ระบุว่าเป็นปกติที่อาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้ ซึ่งอาจจะยังมีสติอยู่แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
“จากการตรวจสภาพภายในร่างกายมีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางจุด หลอดเลือดหัวใจตีบ ประกอบกับเส้นเลือดฐานสมองมีอาการตีบกว่าร้อยละ 70 โดยผู้ตายได้มีการรับประทานยาแก้ความดัน และเบาหวาน ทั้งนี้ เมื่อประมวลทั้งหมดยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่ามีผู้ใดจะเข้ามาทำร้ายร่างกายได้ รวมถึงการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดนั้น สามารถตรวจสอบได้ทั้งอ้างถิ่นที่อยู่ของสามีผู้ตายที่อยู่ที่บริเวณจุดอื่น” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้มีการตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของผู้ตายที่มีประเด็นความขัดแย้งเรื่องการเสียประโยชน์ เพื่อหาเหตุผลว่าจะเป็นมูลเหตุในการฆาตกรรมได้หรือไม่ โดยดูว่าบุคคลใดที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งคาดว่าลูกชายบุญธรรมของผู้ตาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนประเด็นดังกล่าวด้วยต่อไป
