ผลสืบสวน สวป.จัดฉากแพะอุ้มทายาทเจ้าสัวกระทิงแดงรู้ผลวันนี้ ลือสะพัดอาจให้ออกจากราชการไว้ก่อน
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา บุตรชายนายเฉลิม อยู่วิทยา ประธานบริษัท เรดบูล คอมปานี ลิมิเต็ด เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถยนต์ยี่ห้อเฟอร์รารีชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาที่ว่า ขณะนี้กำลังรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาตร์ ทั้งความเร็วรถ ลักษณะการชน ตรวจเทียบดีเอ็นเอคนขับกับรถ รวมทั้งแอลกอฮอล์ในเลือด เพื่อตรวจว่าเมาสุราขณะขับรถหรือไม่ ซึ่งคดีนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับต่อทุกฝ่าย
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า สำหรับการสืบสวนสอบสวนทางวินัย พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ กรณีที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ ว่าจะสรุปผลการสืบสวนสอบสวนที่ใช้ข้อมูลจากทุกฝ่ายมาประกอบ ภายในวันนี้เสนอให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.พิจารณาเสนอต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.อีกครั้ง โดยจะพิจารณาอย่างเป็นธรรม
ด้านพ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ คาดว่าจะมีการสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ นำผู้ต้องหาตัวปลอบมามอบให้พนักงานสอบสวน คดีทายาทธุรกิจกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ก่อนส่งความเห็นให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาต่อไป หากพบว่ามีความผิดจริง ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ในการพิจารณาโทษ ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหา มีสิทธิ์ที่จะโต้แย้ง แต่ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่สามารถที่จะบิดเบือนได้ ส่วนคดีนี้จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ พ.ต.อ.ชุมพล ระบุว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหว ต่อพยานหลักฐานในคดี แม้ว่าจะไม่มีภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุ แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม และพยานอื่นๆ ยืนยันได้ เชื่อมั่น สามารถเอาผิดผู้ต้องหา
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนให้ควบคุมตัวนายสุเมธ หอมอุบล พนักงานดูแลรถ ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลสืบสวนพบว่า สวป.ทองหล่อ กระทำผิดอย่างชัดเจนและจะมีการเสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมสั่งดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา แต่ทั้งนี้จะต้องรายงานผล ผบช.น.พิจารณาในชั้นสุดท้าย