อดีตเมีย “ดาบเชียร” วางแผนกลับมามีลูกด้วยกัน

อดีตภรรยาดาบเหยื่อเฟอร์รารีบอกอดีตสามีเป็นคนดีรักครอบครัว วางแผนจะกลับมาคบกันใหม่และคิดจะมีลูกด้วยกัน ด้านคนดูแลรถในบ้าน ตร.แจ้งข้อหาแจ้งถ้อยคำอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน นำตัวส่งศาลแขวงพระนครใต้พรุ่งนี้

วันนี้ (4 ก.ย.) ความคืบหน้าจากกรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา ประธานบริษัท เรดบูล คอมปานี ลิมิเต็ด เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถเก๋งสปอร์ตแบบ 2 ประตู ยี่ห้อเฟอร์รารี รุ่นพินินฟารินา สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ญญ-1111 กทม. พุ่งชนท้ายจักรยานยนต์สายตรวจของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 49 จนล้มคว่ำก่อนลากร่างของ ด.ต.วิเชียรไปกับพื้นถนนไกลกว่า 200 เมตร ก่อนจะขับหลบหนีไป ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบคราบน้ำมันเครื่องรั่วไหลตลอดเส้นทางที่หลบหนี จึงตามกระทั่งไปกดดันบริเวณหน้าคฤหาสน์เลขที่ 9 ภายในซอยสุขุมวิท 53 กระทั่งเจ้าตัวยอมออกมามอบตัวต่อตำรวจ พร้อมทั้งให้การภาคเสธว่าขับรถชนจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และหลบหนีไม่อยู่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนทนายความจะยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท ประกันตัวออกไปตามที่เสนอข่าวไปแล้ววานนี้ (3 ก.ย.)

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.ทองหล่อ ยังเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เพื่อนข้าราชการตำรวจในโรงพักบางนายก็จับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ บางนายกล่าวยืนยันต่อผู้สื่อข่าวว่า ด.ต.วิเชียรเป็นคนดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีหญิงชาวต่างชาติรายหนึ่งนำช่อดอกไม้มามอบให้ตำรวจในโรงพัก พร้อมแจ้งว่าได้เห็นข่าวออกไปตามสื่อจึงนำดอกไม้มามอบให้เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจ นอกจากนี้ยังได้มีเพื่อนข้าราชการตำรวจในโรงพัก รวมทั้งประชาชนที่พักอาศัยอยู่ซึ่งรู้จักสนิทสนมกับ ด.ต.วิเชียรก็ได้รวบรวมเงินมาช่วยเหลืองานศพของ ด.ต.วิเชียร ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเงินทั้งหมดใส่ตู้พลาสติกใส่ก่อนนำไปเก็บไว้ที่ห้องทำงานของ พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ เพื่อความโปร่งใส

ส่วนรถจักรยานยนต์สายตรวจตราโล่ ทะเบียน 51511 ของ ด.ต.วิเชียร กับรถเก๋งสปอร์ต 2 ประตู ยี่ห้อเฟอร์รารี รุ่นพินินฟารินา สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ญญ-1111 กทม.ของนายวรยุทธนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตรวจเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่กองพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน บริเวณหน้าห้องทำงานของ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ที่ถูก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เซ็นคำสั่งย้ายด่วนให้ไปช่วยราชการนั้น ก็ถูกแกะป้ายชื่อของ พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ ออกไปจากหน้าห้องแล้วเช่นกัน

น.ส.นงนุช แสงประพาฬ อดีตภรรยาของ ด.ต.วิเชียร ขณะกำลังเดินออกจาก สน.ทองหล่อ ก็พบว่าเจ้าตัวยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ก่อนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ก่อนหน้านี้ตนคบหากับ ด.ต.วิเชียรมาตั้งแต่ตนอายุ 18 ปี ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันในปี 47 แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งตอนนั้นตนยังอยากทำงานอยู่เนื่องจากยังต้องส่งน้องเรียนหนังสือ ประกอบกับอดีตสามีนั้นเป็นตำรวจต้องเข้าเวรเลิกงานไม่เป็นเวลา จึงทำให้มีเวลาให้กันไม่มาก บางครั้งไม่เจอหน้ากันเป็นสัปดาห์ จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเลิกกันได้หรือไม่ เพราะยังพบเจอหน้าและโทรศัพท์คุยกันเกือบทุกวัน รวมทั้ง ด.ต.วิเชียรเองก็ยังดูแลแม่กับน้องสาวตนอยู่ด้วย โดยเมื่อ 2 ปีก่อนตนไม่ได้ทำงานแล้วจึงกลับมาอยู่กับแม่ช่วยแม่ขายของ ทำให้ ด.ต.วิเชียร ดีใจมาก ตัว ด.ต.วิเชียรก็ยังแบ่งเงินเดือนให้ตนใช้ด้วย แม่ของตนก็เคยบอกว่าจะให้ตนกับ ด.ต.วิเชียรไปรดน้ำมนต์ ผูกข้อมือกันใหม่อีกครั้ง ตนยังคิดเอาไว้หลายอย่างว่าจะทำอะไรด้วยกัน โดยตั้งใจว่าปีหน้าจะกลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว มีลูกด้วยกันแต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน

“หลังจากนี้คงจะกลับไปทำงานเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่รู้จักคบหากันมาเกือบ 15 ปี ด.ต.วิเชียรเป็นคนดี ซื่อสัตย์ อีกทั้งยังรักเรามาก เรื่องชู้สาวก็ไม่เคยมีให้ต้องคิดมาก เคยมีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตบ้าง แต่ ด.ต.วิเชียรก็ไม่สนใจเลย นอกจากนี้ยังตั้งใจทำงานมาก หากเข้าเวร 08.00 น.ก็จะมาถึงโรงพักตั้งแต่เวลา 07.30 น. จนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อ 7 ปีก่อน ด.ต.วิเชียรก็เคยถูกรถชนที่ จ.กำแพงเพชรมาแล้วครั้งหนึ่ง ขาหักต้องรักษาตัวอยู่นาน 6 เดือนจึงจะกลับมาทำงานได้เป็นปกติ ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือนั้น ทางฝ่ายคู่กรณีก็ยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด แต่ทางตนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน” น.ส.นงนุชกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 3-4 ปาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้การตรงกันว่าเห็นนายวรยุทธเป็นคนขับรถสปอร์ตคันก่อเหตุจริง ซึ่งเหลือรอผลตรวจพิสูจน์ทั้งดีเอ็นเอ คราบเลือด และสภาพรถสปอร์ตของผู้ต้องหา และจักรยานยนต์จากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบสำนวน จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการเรียกตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นอีกครั้ง

พ.ต.อ.ชุมพลกล่าวอีกว่า ส่วนผลการตรวจเลือดของนายวรยุทธนั้น เมื่อวานนี้เจ้าตัวได้ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว อยู่ระหว่างรอผลว่าจะมีแอลกอฮอล์ในเลือดหรือไม่ ซึ่งไม่น่าจะเกิน 1-2 วัน หากพบว่ามีแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป สำหรับเรื่อง พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ที่ถูกคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการนั้น ขณะนี้ทาง ผบช.น.ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดแล้ว โดยให้มีผลแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 ก.ย.นี้

ขณะที่ พ.ต.ท.อัครวินท์ สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า สำหรับตัวนายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านผู้ดูแลรถในบ้านของนายวรยุทธผู้ต้องหา ซึ่งถูกอ้างตัวว่าเป็นคนขับรถพุ่งชนจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร ในตอนแรกนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสุเวศเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับสารภาพว่าให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งข้อหาแจ้งถ้อยคำอันเป็นเท็จกับเจ้าพนักงานไว้ก่อน จากนั้นในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะนำตัวส่งศาลแขวงพระนครใต้ต่อไป

ส่วน พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากนี้จะรอผลการตรวจพิสูจน์จักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร และรถสปอร์ตของนายวรยุทธจากทางกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวน หลังจากนั้นจะเรียกตัวนายวรยุทธมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ยังสงสัยอยู่ สำหรับเรื่องเงินช่วยเหลือค่าปลงศพของ ด.ต.วิเชียร นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันระหว่างฝ่ายผู้ต้องหากับฝ่ายผู้เสียชีวิต เนื่องจากยังติดเรื่องานศพของ ด.ต.วิเชียร อยู่ โดยฝ่ายผู้เสียหายนั้นทางผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้รับข้อเสนอและพิจารณา เนื่องจาก บิดามารดา ด.ต.วิเชียรนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ภรรยาก็เลิกรากันและไม่มีลูกด้วยกัน เหลือแต่เพียงพี่ชายเท่านั้น