xs
xsm
sm
md
lg

ทายาทกระทิงแดงอ้างถูกปาดหน้า ตร.ให้ประกันตัว 5 แสน

เผยแพร่:

ผู้จัดการออนไลน์ - ลูกบิ๊กกระทิงแดงให้การยอมรับขับรถชนตำรวจตาย แต่อ้างถูกขับปาดหน้าหักหลบไม่ทัน ตำรวจตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อืนถึงแต่ความตาย แต่อนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท รอผลตรวจแอลกอฮอล์พิสูจน์เมาแล้วขับหรือไม่อีก 1 ข้อหา ด้านคนขับรถที่รับผิดแทนนายในตอนแรกมีโทษจำคุก 6 เดือน พ่อผู้ต้องหายินดีเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพเหยื่อ ตร.และชดใช้ค่าเสียหายทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก


ความคืบหน้ากรณี นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา บุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา ผู้บริหารเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตามรายละเอียดที่เสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น

พล.ต.ต. อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รับแต่งตั้งจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า การสอบสวนนายวรยุทธตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าก่อเหตุชน ด.ต.วิเชียรจริง แต่รถของผู้ตายขับปาดหน้าจึงหักหลบไม่ทัน ตำรวจจึงตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายพร้อมกับตั้งวงเงินประกัน 5 แสนบาท แต่ไม่คัดค้านการประกันตัว โดยให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณาอย่างไร

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่ ด.ต.วิเชียร ถูกชนบริเวณซอยสุขุมวิท 47 ลากยาวจนถึงซอย 49 เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

ล่าสุดพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาแล้วในวงเงินประกัน 5 แสนบาท โดยระบุว่าเนื่องจากมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

ด้าน นายสมัคร เชวภานันท์ ทนายประจำตระกูล กล่าวภายหลังพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวนายวรยุทธแล้วว่า ยินดีชดใช้ค่าเสียหายทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก แต่ยืนยันว่าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคงต้องรอผลตรวจจากนิติเวชอีกครั้ง

โดยในเรื่องการจัดตั้งสวดศพอภิธรรม ทางนายเฉลิมยินดีเป็นเจ้าภาพตลอดงาน โดยยอมรับว่านายวรยุทธ ยังอยู่ในการตกใจและเครียด คงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆ ได้

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา นายพรอานันท์ กลั่นประเสริฐ อายุ 58 ปี พี่ชายและน.ส.นงนุช แสงประพาฬ อายุ 31 ปี อดีตภรรยา พร้อมด้วยญาติ และเพื่อนร่วมงาน เดินทางมารับศพ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ ซึ่งถูกนายวรยุทธ อยู่วิทยา อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา ประธานบริษัท เรด บูล คอมปานี ลิมิเต็ด ขับรถเก๋งเฟอร์รารีชนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยทันทีที่ น.ส.นงนุชเห็นศพ ด.ต.วิเชียร ได้ตรงเข้ากอดพร้อมร่ำไห้อย่างเศร้าสลด

ทั้งนี้ ผลการชันสูตรของแพทย์นิติเวช ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า กระดูกสันหลังส่วนคอหักเคลื่อน เนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก โดยหลังจากรับศพทางญาติจะได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 10 วัดธาตุทอง เป็นเวลา 5 วัน โดยในเวลา 16.30 น.พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.จะเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ

นายพรอานันท์กล่าวว่า ผู้ตายน้องชายคนสุดท้อง ตอนเด็กใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ จึงได้มาสอบ ร.ร.พลตำรวจนครบาล หลังเรียนจบเริ่มรับราชการเป็นตำรวจ โดยบรรจุครั้งแรกที่ สน.ทองหล่อ ตั้งแต่ปี 2534 และประจำอยู่ที่นี่มาโดยตลอดไม่ได้ย้ายไปที่อื่น โดยปกติน้องชายเป็นคนสุภาพเรียบร้อย อัธยาศัยดี และตั้งใจทำงาน จึงเป็นที่รักใคร่ชอบคอของเพื่อนร่วมงาน รวมถึงบุคคลใกล้ชิด เมื่อช่วงเช้าตนทราบจากข่าวทางโทรทัศน์ และต่อมามีคนโทร.มาบอก รู้สึกตกใจมากจึงรีบเดินทางมาทันที ส่วนเรื่องคดีตนไม่ขอให้ความเห็น ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางฝ่ายที่ขับรถชนน้องชายของตนยังไม่มีการติดต่อมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด

“เรื่องนี้ผมรู้สึกรับไม่ได้ และถือเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก ที่คนก่อเหตุขับรถชนน้องชายแล้วขับรถหนี มีการลากศพไปไกล เพราะหากชนแล้วหยุด น้องชายผมคงมีโอกาสรอด อาจจะไม่ตาย อยากฝากถึงคนที่ก่อเหตุว่าเมื่อขับรถชนแล้วควรจะมีความรับผิดชอบ อย่างน้อยก็น่าจะลงมาดูศพ ไม่ใช่ขับรถหลบหนีไปแบบนี้ พอรู้ว่าเป็นลูกคนมีชื่อเสียง อยากให้ฝากถึงคนที่เลี้ยงดูเขา อยากให้อบรมลูกให้มีความรับผิดชอบ ทำผิดควรลงมาช่วยไม่ใช่หนีไปแบบนี้” นายพรอานันท์กล่าว และว่ากรณีแบบนี้ตนเห็นมาหลายกรณีแล้วที่ลูกคนมีเงินขับรถชนคนตายจึงไม่อยากคาดหวังอะไร แต่หากเป็นไปได้อยากให้คนก่อเหตุมาขอขมาหน้าศพ

ด้าน นางประนอม แสงประพาฬ อายุ 53 ปี กล่าวว่า แม้ผู้ตายเป็นอดีตลูกเขย แต่ตนก็รักผูกพันเสมือนลูกตัวเอง ที่ผ่านมาก็ดูแลกันมาโดยตลอด ผู้ตายมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนรอบข้างจึงเป็นที่รักของทุกคน ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ขึ้นไปที่ห้องพักของผู้ตายเพื่อสอบถามว่ากินข้าวหรือยัง แต่เห็นเขาแต่งตัวกำลังไปเข้าเวรจึงไม่ได้พูดอะไรกัน ทั้งนี้ อยากให้คนที่ขับรถชนมาแสดงความรับผิดชอบ แม้ชีวิตของ ด.ต.วิเชียรจะไม่สามารถเรียกคืนมาได้แล้ว แต่อยากเขาให้สำนึกผิด มาขอขมาศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ญาติกำลังติดต่อรับศพ ด.ต.วิเชียร ได้มีชายซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายผู้ก่อเหตุเดินทางมาสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้มีการพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต หรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น