คดียิง 2 ศพ “JUNO” ผับ “โอ๋ สืบ 6-ผกก.โรงพัก” เล่นบทเก่า “ใบ้รับประทาน”
จากกรณีมือปืนเหี้ยมลั่นไกสังหารโหดนายชัยพร แจ้งเกิด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/632 หมู่ที่ 13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กระสุนเจาะเข้าตามร่างกาย โหนกแก้ม ลำคอด้านซ้าย และที่ใต้ราวนมด้านซ้ายรวม 3 นัด และนัดที่ 4 กระสุนพลาดไปถูกนายทิวากร เอี่ยมสุภา อายุ 24 ปี คนขับแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทว 9774 กรุงเทพฯ เสียชีวิตด้วยกัน รวมเป็น 2 ศพ เหตุเกิดที่ถานบันเทิงชื่อ JUNO ผับ ตั้งอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงตี 5 ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้นั้นนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่เมืองนนทบุรี ต่างหุบปากกันเงียบกริบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 55 พ.ต.ท.มนัส นิลกลัด พงส. (สบ 2) สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ได้เรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 6-7 ปาก ตั้งแต่เกิดเหตุจนนำมาสู่การออกหมายจับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อ นามสกุล และรูปภาพได้เนื่องจากกลัวเสียรูปคดี ซึ่งขณะนี้ก็ได้นำเรื่องทั้งหมดไปให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการติดตามหาตัวคนร้ายแล้วแต่ยังไม่รู้คดีไปถึงไหน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลความคืบหน้ากับ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และ พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เพื่อสอบถามรายและเอียดความคืบหน้าในคดีแต่ก็เหมือนเดิม ติดต่อไม่ได้ ติดต่อได้ก็มีนายเวรรับขอฝากเรื่องไว้บอกว่าจะได้รายงานหลังท่านว่างจากการประชุมบ้าง อ้างไปต่างๆ นานา จนไม่สามารถรู้ข้อมูลในการทำงานติดตามคนร้ายก่อเหตุยิง 2 ศพหน้าจูโน่ผับที่คดีเกิดขึ้นมาจนเหยื่อกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แต่อย่างใด
ด้าน นายพิสันต์ แจ้งเกิด อายุ 60 ปี บิดานายชัยพร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ากำลังทำคดีอยู่ ได้ออกหมายจับแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าออกหมายจับคนร้ายกี่คน ซึ่งได้สวดอภิธรรมศพ 3 วัน ที่วัดทินกร จังหวัดนนทบุรี ซึ่งครบกำหนดแล้ว (วันนี้ 30 ส.ค.) ก็จะทำพิธีการฌาปนกิจศพลูกชายแล้ว คดียังอยู่เหมือนเดิม “ผมก็ภาวนาให้คนที่ก่อเหตุฆ่าลูกชายผมให้ตำรวจจับได้เร็ว” นายพิสันต์กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ในเขตปริมณฑลห่างจากกรุงเทพฯ แค่ปลายจมูก แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วย “ผลประโยชน์ทางอบายมุขมหาศาล” ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิงเปิด-ปิดเกินเวลา สิ่งอบายมุขต่างๆ แต่ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ไม่มีใครทำอะไรได้ เนื่องจากรู้เห็นเป็นใจกันเป็นขบวนการใหญ่ เฉพาะท้องที่โรงพักเมืองนนทบุรีแห่งเดียวมีสารพัดทุกรูปแบบความบันเทิง ผับ บาร์ อาบ อบนวด บางร้านก็ยังไม่มีใบอนุญาตแต่ก็ยังเปิดเกินเวลากฎหมายกำหนด โดยบริเวณแถวย่านเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มีอาบอบนวดชื่อดัง และสถานบันเทิงอิทธิพลมากมายเปิดเกินเวลามานานแล้ว ส่วนนวดแผนโบราณ ตรงบริเวณเชิงสะพานพระนั่งเกล้ามีโสเภณีทั้งชาวลาว เขมร พม่า และเวียดนาม เข้ามาค้าประเวณีอย่างโจ๋งครึ่มทั้งกลางวัน-กลางคืน อีกทั้งตรงข้ามโต๊ะสนุกเกอร์ก็เป็นบ่อนการพนันใหญ่ในอาคารพาณิชย์ 3 คูหาสูง 4 ชั้น มีบรรดาผีพนันเข้าไปมั่วสุมเป็นจำนวนมาก ส่วนในบ้านเอื้ออาทร แถวปากเกร็ดก็มี “บ่อนใหญ่” มีการพนันทุกประเภท ในซอยวัดกู้ตรงแถววินมอเตอร์ไซค์ ก็มีบ่อน โต๊ะพนันบอล เปิดเล่นกันมานาน “ตู้ม้าไฟฟ้า” แถวย่านปากเกร็ดก็มีอยู่หลายตู้ แถวย่านพระราม 5 ก็มีหลายร้านอาหารที่มีแต่ชาวต่างด้าว เวียดนาม พม่า นุ่งสั้นห่มน้อยเข้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร
ส่วนสถานบันเทิงที่ใหญ่ ประเภทเป็นที่นิยมของ “นักท่องเที่ยวยามราตรี” ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี มีอยู่ 1 แห่ง ที่เปิดยันเช้าจนพระออกบิณฑบาต ก็คือ “จูโน่ผับ” โดยจะปิดไฟหน้าร้านแต่ข้างในยังมีนักท่องเที่ยวชายหญิงร้องเต้นส่งเสียงเพลงสนั่นผับทำให้คนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีต่างเอือมระอากันเป็นแถวที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้ประกอบการทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและนายตำรวจระดับสูงในพื้นที่กลับเพิกเฉย