จากกรณีเกิดเหตุยิงกันตายหน้าสถานบริการ “JUNO” ผับ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่พยายามปิดข่าว เนื่องจากสถานบริการดังกล่าวเปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด ตร.พบปืนต้องสงสัยก่อเหตุ 1 กระบอก ส่งตรวจเทียบหัวกระสุนเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่คนร้ายก่อเหตุหรือไม่ สะพัดสถานประกอบการ “JUNO” อัดฉีดวิ่งเต้นเต็มที่ หวั่นถูกสั่งปิด! หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเปิดเกินเวลา!!!
ความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ก่อเหตุยิง นายชัยพร แจ้งเกิด อายุ 25 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กระสุนเจาะเข้าโหนกแก้ม ลำคอด้านซ้าย และที่ใต้ราวนมด้านซ้ายรวม 3 นัด เสียชีวิต พร้อมกับ นายทิวากร เอี่ยมสุภา อายุ 24 ปี คนขับแท็กซี่ที่ถูกลูกหลง เหตุเกิดที่สถานบันเทิงชื่อ JUNO ผับ ตั้งอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงตี 5 ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 ส.ค.55 ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นายพิสันต์ แจ้งเกิด อายุ 60 ปี อดีตพนักงานธนาคารกรุงศรีฯ บิดา นายชัยพร ได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาว ญาติๆ รวมทั้งเพื่อนอาสามาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูกว่า 20 คน เพื่อมาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามศาสนา ที่วัดทินกร จังหวัดนนทบุรี ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
นายพิสันต์ บิดาผู้ตาย กล่าวว่า หลังจากต้องสูญเสียบุตรชายไปอย่างกะทันหัน ทำอะไรไม่ถูก เพราะว่าตนมีลูก 2 คน ตอนนี้ต้องมาเหลือบุตรสาวเพียงคนเดียว ส่วนการติดตามคดีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์สอบถามกับ พ.ต.ท.มนัส เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีคดีมีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เบื้องต้นสารวัตรเจ้าของคดี แจ้งว่า ขณะนี้ได้พบปืนต้องสงสัย จำนวน 1 กระบอก กำลังส่งให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าตรงกับปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุหรือไม่ นอกจากนี้สารวัตร ยังบอกด้วยว่า หากหาตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้ตัวคนยิงได้ “ผมก็จะขออนุมัติหมายจับทันที สารวัตรบอกกับผมอย่างนี้ ผมก็ยังงอยู่ว่าพูดอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไร” นายพิสันต์ ระบุ
ขณะเดียวกัน นางกุลวดี แก้วสุวรรณ อายุ 50 ปี มารดาของ นายทิวากร โชเฟอร์แท็กซี่ที่ถูกลูกหลงเสียชีวิต ได้เดินทางมาพร้อมกับหลานสาว และญาติ 4 คน ทันใดนั้นเมื่อ นางกุลวดี เห็นร่างอันไร้วิญญาณของลูกชายใส่รถเข็นออกมาจากห้องรับศพ ได้ปล่อยร้องไห้โฮโผเข้าไปกอดศพลูกชายอย่างน่าเวทนา
นางกุลวดี กล่าวด้วยน้ำตาว่า พอมาทราบข่าวร้ายว่า ลูกชายถูกยิงตาย ก็รู้สึกตกใจมาก ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ “ใครที่กระทำความโหดร้ายกับลูกชายก็ขอให้รับกรรมไป ขอให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้เร็ว ส่วนเรื่องคดีตำรวจติดตามคนร้ายอย่างไร ฉันไม่รู้ เพราะยังไม่มีตำรวจคนไหนติดต่อมาเลย ซึ่งวันนี้ “ฉันมารับศพลูกชายกลับไปทำพิธีที่วัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ซึ่งได้อธิษฐานขอให้ผู้ที่ก่อเหตุถูกตำรวจจับได้วันนี้พรุ่งนี้” นางกุลวดี ระบุ
ด้าน พ.ต.ท.มนัส นิลกลัด พนง.(สบ2) สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-7 คน มาสอบปากคำ ซึ่งจากการสอบปากคำก็ได้ความคืบหน้าไปมาก เบื้องต้นทราบว่า เป็นวัยรุ่นอยู่แถวบางไผ่ บางศรีเมือง ซึ่งวันเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ติดตามยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.มาได้ 1 กระบอก ในรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้าน แถวอำเภอบางศรีเมือง นอกจากนี้ ยังพบผู้ต้องสงสัยชื่อนุ แต่ยังไม่ได้นำตัวมาสอบ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังติดตามอยู่
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น.ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้มีนายเวรรับสายโทรศัพท์แทน พร้อมกับแจ้งว่า ท่านผู้การฯกำลังเข้าประชุมอยู่ โดยไม่รู้ว่าเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อใด จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลา 18.30 น.ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ความคืบหน้าในคดีอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า “ผู้การฯยังไม่เสร็จสิ้นการประชุม” โดยนายเวรได้แนะนำให้ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยเรื่องคดีกับ พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าของท้องที่เกิดเหตุแทน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้นายเวรคนดังกล่าว ทราบว่า ได้พยายามโทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.ชาญศิริ ตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานบริการดังกล่าวได้พยายามวิ่งเต้นคดีนี้อย่างเต็มที่ จึงทำให้คดีนี้ไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าไรนัก กระทั่งล่าสุดยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมาจากผู้บังคับบัญชา ว่า สถานบริการดังกล่าวเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ จนนำมาซึ่งปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งหากพบว่ามีการเปิดบริการเกินเวลา จะต้องถูกสั่งพักใบอนุญาตประกอบการไม่เกิน 90 วัน และหากตรวจสอบพบว่ามีการมั่วสุมให้เกิดลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนได้ เจ้าพนักงานมีสิทธิ์เพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งพักใบอนุญาตประกอบการได้ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509