จากกรณีเกิดเหตุยิงกันตายหน้าสถานบริการ JUNO ผับช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยมีประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่พยายามปิดข่าว เนื่องจากสถานบริการดังกล่าวเปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดนนท์สั่งกวดขันเวลาเปิด-ปิดสถานบริการเข้มงวด พบละเลยลงโทษเด็ดขาด! ด้าน “ปิยะ สอนตระกูล” รอง ผบช.ภ.1 ออกโรงสั่งกำชับติดตามจับกุมคนร้าย ย้ำ ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอเวลา ตร.ทำงานล่ามือปืนมาลงโทษตามกฎหมาย ส่วนประเด็นสถานบริการเปิด-ปิดเกินเวลาหรือไม่ จี้ถามจังหวัดนนท์ดำเนินการอย่างไร ตร.กำลังติดตามคดี รับจะลงไปดูข้อเท็จจริง
ความคืบหน้าคดีมือปืนโหดใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.กระหน่ำยิงนายชัยพร แจ้งเกิด อายุ 25 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กระสุนเจาะเข้าโหนกแก้ม ลำคอด้านซ้าย และที่ใต้ราวนมด้านซ้ายรวม 3 นัด เสียชีวิตพร้อมกับนายทิวากร เอี่ยมสุภา อายุ 24 ปี คนขับแท็กซี่ที่ถูกลูกหลง เหตุเกิดที่ถานบันเทิงชื่อ JUNO ผับ ตั้งอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงตี 5 ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (28 ส.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการรายวัน ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างไร เรื่องนี้ตนได้กำชับไปยัง พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แล้วส่วนความคืบหน้าเป็นอย่างไรในรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากมีบางส่วนที่หากเปิดเผยไปจะทำให้คนร้ายไหวตัวทัน
ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าในส่วนสถานประกอบการได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าเปิด-ปิดเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่าตำรวจกำลังดำเนินการสสืบสวนยหาคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายอยู่ ส่วนเรื่องการเปิด-ปิดเกินเวลาหรือไม่นั้นตนจะลงไปดูข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนเรื่องคำสั่งจะให้มีการเปิด-ปิดสถานประกอบการนั้นต้องเป็นในส่วนของจังหวัดว่าจะดำเนินการอย่างไร
“คุณไม่ต้องห่วงหรอก รับรองตำรวจดำเนินการเต็มที่แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานนิดหนึ่งครับ” พล.ต.ต.ปิยะกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ด้าน พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผกก.ป.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจและจังหวัดได้ประชุมได้ข้อสรุปว่าให้เร่งรัดนโยบายกวดขันการเปิด-ปิดสถานบริการในพื้นที่อย่างเข้มงวด ซึ่งเมื่อคืนนี้ เวลา 02.00 น.(28 ส.ค.) ตนพร้อมลูกน้องก็ได้เดินทางไปตรวจสอบการเปิด-ปิดด้วยตนเอง ก็ไม่พบสถานบริการ JUNO เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเกินเวลาแต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชตติพิสิฐ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายว่า ขณะนี้ทราบตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแล้ว ทางตำรวจมีชื่อที่อยู่หมดแล้ว เชื่อน่าจะใช้เวลาไม่นานในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แล้วไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้รับข้อมูลจากหน้าห้องแจ้งว่า เรื่องนี้ทางผู้ว่าฯ ได้สั่งการลงไปให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตรวจตราสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด หากมีสถานประกอบการใดละเลยให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน นางกุลวดี แก้วสุวรรณ อายุ 50 ปี มารดาของนายทิวากร โชเฟอร์แท็กซี่ที่ถูกลูกหลงเสียชีวิตภายในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากเรียกร้องให้ผู้บัญการตำรวจภูธรภาค 1 ช่วยลงมาตรวจสอบความคืบหน้าในคดีนี้ด้วย เพราะเกรงว่าลูกชายจะตายฟรี
“อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียชีวิตด้วย ลองนึกดูว่าถ้าเป็นญาติและลูกเมียคุณจะรู้สึกอย่างไร” นางกุลวดีกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น
ด้าน นายพิสันต์ แจ้งเกิด อายุ 60 ปี บิดาของนายชัยพรผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อยากให้ทางตำรวจเร่งรัดจัดการกับคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือยิงลูกชายตนเสียชีวิตให้ได้ เพราะเชื่อว่าเป็นการทะเลาะกันในสถานบันเทิงแล้วคนร้ายตามมาลงมือสังหารเท่านั้น ส่วนประเด็นอื่นนั้นลูกชายตนก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครมาก่อน
“ผมอยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ครับ ผมจะได้ตอบหลานผมซึ่งเป็นลูกของนายชัยพรที่ผมต้องรับเลี้ยงดูต่อได้ว่าใครฆ่าพ่อเขาครับ” นายพิสันต์ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานบริการดังกล่าวได้พยายามวิ่งเต้นคดีนี้อย่างเต็มที่ จึงทำให้คดีนี้ไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าไรนัก กระทั่งล่าสุดยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมาจากผู้บังคับบัญชาว่าสถานบริการดังกล่าวเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่จนนำมาซึ่งปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งหากพบว่ามีการเปิดบริการเกินเวลาจะต้องถูกสั่งพักใบอนุญาตประกอบการไม่เกิน 90 วัน และหากตรวจสอบพบว่ามีการมั่วสุมให้เกิดลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนได้ เจ้าพนักงานมีสิทธิเพิกถอนใบอนุญาตหรือสั่งพักใบอนุญาตประกอบการได้ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509
