ตร.นนท์แถลงข่าวรวบ 2 เดนคุก ก่อเหตุฆ่าโหดชิงทรัพย์คนเก็บของเก่าเพื่อหาเงินเสพยานรก สังเวยชีวิตหนุ่มรับซื้อของเก่า เซ่นยมทูต แลกเงินสดเพียง 2,000 บาท
นนทบุรี - เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 กรกฎาคม 2555 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี สาข่าย่อยรัตนาธิเบศร์ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกะศร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ หรือ แหลม พูลปั้น อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/9 ม.2 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ นายปาฏิหารย์ หรือ เหม่ง ปิดกันภัย อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ซ.ทานสัมฤทธิ์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลา 06.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพ นายสมใจ แววดี อายุ 55 ปี อาชีพเก็บของเก่า สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงบริเวณลำตัวหลายแผล และที่ใบหน้าถูกตีจนยุบ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บริเวณปากซอยกาหลง ม.5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ใช้รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค ซ้อนมาด้วยกัน 2 คน ซึ่งไฟท้ายของรถ จยย.ดังกล่าวติดค้างตลอดเวลา และได้ขับวนผ่านผู้ตายไป 2 รอบ ก่อนจะลงมือก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ทำการตรวจสอบกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมก่อเหตุ และใช้รถจยย.ก่อเหตุ จนสามารถสืบทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายปาฏิหาริย์ และ นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีปล้นทรัพย์และศาลตัดสินจำคุก 5 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 2 ปี เท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 297/2555 และที่298/2555 ลงวันที่ 25 ก.ค.55 เข้าทำการจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซ.ทานสัมฤทธิ์ 5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี
ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่านายสมใจ จริง โดยวันเกิดเหตุได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นโซนิค ทะเบียน ขจร 725 นครสวรรค์ ซ้อน 2 ออกตระเวนหาเหยื่อเพื่อจี้ชิงทรัพย์หาเงินไปซื้อยาเสพติด เมื่อขับมาถึงบริเวณปากซอยที่เกิดเหตุ พบผู้ตายกำลังเก็บของเก่าอยู่ตามลำพัง จึงได้วนรถกลับมา โดย นายกิตติศักดิ์ หรือ แหลม ได้ลงจากรถ จยย.ไปใช้มีดจี้ผู้ตาย แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืน นายกิตติศักดิ์ จึงใช้มีดจ้วงแทงผู้ตายไปหลายครั้ง ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งหลบหนี และล้มลง นายกิตติศักดิ์ จึงได้ใช้ไม้หน้าสามยาวประมาณ 1 เมตร ที่อยู่ข้างทางกระหน่ำตีผู้ตายซ้ำ ที่บริเวณใบหน้าอีกหลายครั้งจนเสียชีวิต ก่อนจะล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าผู้ตายจำนวน 2,000 บาทหลบหนีไป ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด