xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาเลื่อนสรุปไต่สวนถอนประกันตัว “ตู่” พร้อมแกนนำ ดีเดย์เช็คบิลเชือด 9 ส.ค.!!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ให้การชั้นศาลไต่สวนถอนประกันตัว
ศาลอาญาเลื่อนพิจารณาถอนประกัน "จตุพร" ไปวันที่ 9 ส.ค. พร้อมแกนนำ นปช. 23 คน ชี้ดูข้อเท็จจริงทั้งหมดาที่เกี่ยวข้อง พร้อมพิจารณาในคราวเดียวกันทั้งหมดในวัน 9 ส.ค.ว่าจะ "ถอน - ไม่ถอน" ผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัวหรือไม่ ด้าน "ตู่"ยิ้มระรื่นรับ กองเชียร์ "แดง - เผาเมือง" หลัง "ศาล" ออกโรงปรามอย่าปราศรัย "ป่วนเมือง"


เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบถาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวกลุ่มร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำเลยที่ 2 ในคดีร่วมกันก่อการร้าย กรณีที่ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวนายจตุพร กรณีมีพฤติการณ์เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณหน้ารัฐสภา กล่าวโจมตีพาดพิง ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับคำร้องขอให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ม.291 ขัด ม. 68 ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่

โดยในวันนี้นายเชาวนะ ผู้ร้องมาศาลพร้อมส่งวีซีดีบันทึกภาพและเสียงคำปราศรัยของจำเลยที่ 2 โดยระบุว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องตาม พ.ร.บ.สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2542 ม.4(1) โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2555 นายจตุพร จำเลยที่ 2 และนายยศวริศ ชูกล่อม จำเลยที่ 7 จำเลยคดีร่วมกันก่อการร้ายที่ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ได้ขึ้นปราศรัยหน้าอาคารรัฐสภาโดยมีลักษณะยั่วยุปลุกระดมผู้ชุมนุมให้คุกคามการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นการก่อให้เกิดความไม่สงบ เพื่อทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญ การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการทำผิดเงื่อนไขศาลอย่างชัดเจนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แสดงให้เห็นถึงการขาดความเคารพยำเกรงต่อสถาบันศาล จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัวจำเลยที่ 2

ขณะที่นายจตุพร จำเลยที่ 2 แถลงคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ แต่หากจะอ้างว่ามีอำนาจตาม ม.4 (4) พ.ร.บ.สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมอบอำนาจ ซึ่งในคดีนี้ไม่ปรากฏว่าประธานตุลาการศาลรัฐธรรมและตุลาการ ไม่อำนาจให้ผู้ร้อง และประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการไม่ใช้โจทก์ พยาน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่จะยื่นคำร้องขอให้ถอน โดยจำเลยที่ 2 ยืนยันว่า ไม่ได้ทำการยุยงปลุกระดมหรือคุกคามศาลรัฐธรรมนูญ โดยจำเลยที่ 2 เป็นนักการเมืองมีสิทธิเสรีภาพในการคิดและแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่องค์กรตามอำนาจอธิปไตย การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่ได้เป็นการทำลายล้างองค์กร และเมื่อมีการพิจารณาทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญจำเลยที่ 2 เป็นผู้ห้ามไม่มีการชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ

โดยศาลได้เปิดแผ่นวีดีซีที่ผู้ร้องนำส่งมาแล้วมีข้อความตรงกับคำถอดเทปที่จำเลยที่ 2 ส่งมา หลังจากที่จำเลยที่ 2 ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยแล้ว นายยศวริศ จำเลยที่ 7 ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อ โดยมีการระบุรายละเอียดชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 คน พร้อมระบุว่า หากผู้ใดที่อยู่ใกล้เคียงให้ช่วยจัดการด้วย ต่อมานายก่อแก้ว พิกุลทอง จำเลยที่ 5 ในคดีเดียวกันนี้ ได้แถลงข่าวทำนองว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครอง ประชาชนพร้อมที่จะดำเนินการหากตำรวจไม่จัดการตุลาการทั้ง 7 ซึ่งหากประชาชนดำเนินการแล้วก่อให้เกิดการรัฐประหารของเจ้าหน้าที่ทหาร เราก็พร้อมจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อแบบ ถึงขั้นแตกหักก็อาจจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อ แต่อ้างว่าไม่ได้เป็นการปลุกปั่นประชาชน โดยจำเลยที่ 2 อ้างว่า จำเลยเป็นนักการเมืองมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต ไม่ได้เป็นการคุกคามตุลาการและไม่ได้มีการตระเตรียมการกับจำเลยอื่นว่าใครจะพูดเรื่องอะไร การกระทำของจำเลยที่ 7 ไม่เกี่ยวข้องกับตน จำเลยที่ 2 ไม่ได้ตั้งใจทำผิดเงื่อนไขประกันตัว ขอศาลเมตตาให้โอกาสอีกครั้ง และขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวให้ชัดเจนเพื่อวางแนวทางในการปฎิบัติ

โดยศาลพิเคราะห์ คำแถลงของนายเชาวนะ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญผู้ร้องและ นายจตุพร จำเลยที่ 2 แล้วเห็นว่า ยังมีข้อเท็จจริงบางส่วนที่ยังไม่ยุติ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดปรากฎแก่ศาลอันจะแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า นายจตุพร จำเลยที่ 2 กระทำการอันเป็นการผิดเงื่อนไขของศาลที่กำหนดไว้ในการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ จึงเห็นสมควรให้รอฟังคำแถลงสอบถามจำเลยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตามที่ศาลได้นัดสอบถามจำเลยทุกคนไว้ จึงให้เลื่อนคดีออกไปนัดสอบถามจำเลยที่ 2 พร้อมกับจำเลยอื่นๆในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ เวลา 09.00 น. และจะมีคำสั่งพร้อมกับจำเลยอื่นในคราวเดียวกัน

นอกจากนี้ ศาลแจ้งยังจำเลยว่า แม้จำเลยที่ 2 จะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการพูดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่จำเลยที่ 2 ก็ไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นหรือพูดอะไรที่กระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของคนอื่นและไม่สมควรแสดงความคิดเห็นหรือพูดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขาดศีลธรรมอันดีของประชาชน แม้จำเลยที่ 2 แถลงว่า หากจำเลยที่ 2 พูดปราศรับไปถึงผู้ใด แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างจำเลยที่ 2 กับบุคคลนั้น และจำเลยที่ 2 อาจจะถูกผู้อื่นฟ้องร้องดำเนินคดีได้ แต่ศาลจะปล่อยให้จำเลยที่ 2 กระทำการใดๆอันเป็นการกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่นอีกต่อไปไม่ได้ เพราะถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น อันจะเป็นเหตุให้ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.108/1 จึงขอกำชับและตักเตือนจำเลยที่ 2 ให้ปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งในการอนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยห้ามจำเลยที่ 2 กระทำการใดๆอันอาจจะก่อให้เกิดอันตราย กระทบต่อความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 2 จะมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการพูดใดๆตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งจำเลยที่ 2 อาจจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือแถลงข่าว หรือกระทำการใดๆได้ก็ตาม แต่ความผิดที่จำเลยที่ 2 ถูกดำเนินคดีนี้ล้วนแต่สืบเนื่องมากจากการที่จำเลยที่ 2 ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีทางการเมืองทั้งสิ้น

ดังนั้นศาลจึงขอกำชับและตักเตือนจำเลยที่ 2 ให้ระมัดระวังการกล่าวปราศรัยหรือการกล่าวแถลงข่าวใดๆมากกว่านี้ โดยหากจำเลยจะกระทำการใดๆขอให้ตระหนักให้มากว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองและศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 2 และขอความร่วมมือให้จำเลยที่ 2 หรือกลุ่มของจำเลยที่ 2 ไม่ใช้เครื่องกระจายเสียงในที่สาธารณะบริเวณหน้าศาลเพราะเป็นการรบกวนบุคคลอื่น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก

สำหรับบรรยากาศบริเวณศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงาน นายจตุพรได้เดินทางมาถึงศาลประมาณ 09.00 น. โดยใส่ชุดสูทสีเทา โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานนปช. นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช. พร้อมทั้งแกนนำและแนวร่วม นปช. มาร่วมฟังการไต่สวนและให้กำลังใจนายจตุพรด้วย

ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ประมาณ 1,000 คน ได้ทยอยเดินทางมาลุ้นฟังคำสั่งศาลและให้กำลังใจนายจตุพร ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. นำรถบรรทุกสิบล้อติดเครื่องขยายเสียงดัดแปลงเป็นเวทีมาจอดริมถนนหน้าศาลอาญา และได้ปราศรัยให้กำลังใจแกนนำและศาลอาญา รวมทั้งมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผนขายของบนทางเดินเท้าตลอดแนวยาวของศาลอาญา ทำให้ต้องปิดการจราจร 2 เส้นทาง ส่วนประตูทางเข้าศาลอาญามีการ์ด นปช.ตรวจสอบกระเป๋าผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่จะเข้ามาภายในบริเวณศาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลได้นำรั้วมากั้นรอบบันไดทางเข้าอาคารศาลไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในอาคาร กลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้คอยให้กำลังใจที่หน้าศาลอาญา นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ บก.น.2 และเจ้าหน้าที่กองอารักขาและควบคุมฝูงชน กว่า 200 นาย คอยดูแลความปลอดภัยภายในอาคารและบริเวณโดยรอบศาลอาญา

ภายหลังชี้แจงต่อศาล นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลได้เลื่อนอ่านคำสั่งเป็นวันที่ 9 ส.ค. รวมกับแกนนำนปช.อีก 23 คน ซึ่งตนน้อมรับและขอบคุณศาลที่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 26 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานและจัดปราศรัยด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า นปช.ยังไม่มีกำหนดการจัดงานวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งศาลไม่ได้ห้าม แต่ได้ตักเตือนและกำชับให้ระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องคำพูดที่อาจใช้ถ้อยคำไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยตนก็จะระมัดระวังและพร้อมปฏิบัติตามความห่วงใยของศาล

ทั้งนี้ ภายหลังจากนายจตุพรให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นแล้ว ได้ขึ้นรถเดินทางกลับไปโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนเสื้อแดงคอยส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนให้กำลังใจ







กำลังโหลดความคิดเห็น