สาวบุกร้อง บช.น. อ้างถูกตำรวจ สน.คลองตัน ประพฤติชั่วทำตัวเป็นโจรในเครื่องแบบยัดข้อหาเสพยาเสพติด-จับขังคุกดำเนินคดี 4 วัน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเป็นผู้เสียหายโร่เข้าแจ้งความดำเนินคดีหัวขโมยเส้นใหญ่ซี้ปึ้กผู้กองสาวคลองตัน สั่งเคลียร์คดีให้ยอมความ เจ้าตัวยืนกรานดำเนินคดีหัวขโมยถึงที่สุด กลับถูกจับตรวจฉี่ดำเนินคดี ร้องขอความเป็นธรรมเอาผิด 8 ตำรวจฉาว ยศ “”นายพัน ยันนายดาบ” ด้านตำรวจโต้ทันควันทำตามหน้าที่ ยืนยันความบริสุทธิ์ อ้างผิดพลาดสำแดงผิดการจับกุมเท่านั้น!
จากกรณี น.ส.อารยา วัฒนกุล อายุ 34 ปี อยู่เลขที่ 751/1 หมู่ 13 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีต่อตำรวจ สน.คลองตัน ตั้งแต่ระดับ พ.ต.ท.-ด.ต. รวม 8 นาย โดยกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังเป็นผู้เสียหายคดีลักทรัพย์แต่กลับถูกจับตรวจปัสสาวะจนตกเป็นผู้ต้องหาคดีเสพยาเสพติดตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) น.ส.อารยา วัฒนกุล อายุ 34 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ส.ต.ท.หญิง พนารัตน์ วงศ์ปรักไพศาล ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ 8 เป็นตัวแทนรับเรื่องไว้เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ยศ “พ.ต.ท.-ด.ต.” รวม 8 นาย แจ้งข้อหาคดียาเสพติด เมื่อช่วง พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตันชุดดังกล่าว
น.ส.อารยากล่าวว่า ตนได้เข้าแจ้งความที่ สน.คลองตัน หลังจากมีคนร้ายบุกเข้ามาขโมยโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กภายในห้องพักที่รีเจนท์คอนโดมิเนียม อาคารซี เลขที่ 97/79 ซอยอ่อนนุช 17 แยก 18 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พัก พบว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายวรวุฒิ หรือปอง ปาละสุทธิกุล อายุ 27 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายวรวุฒิไว้ได้พร้อมของกลางดังกล่าว
น.ส.อารยากล่าวต่อว่า หลังจากควบคุมตัวนายวรวุฒิมาที่ สน.คลองตันแล้ว ร.ต.อ.หญิง ฐานันดร (ไม่ทราบนามสกุล) ได้เข้ามาทักทายนายวรวุฒิในลักษณะที่สนิทสนมกัน แล้วจึงได้ดำเนินการสอบปากคำ โดยทางพนักงานสอบสวนบอกกับตนว่าขอให้ยอมความให้เรื่องนี้และจะให้ผู้ต้องหาชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ตนไม่ยินยอมและต้องการให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด จนทำให้พนักงานสอบสวนรายดังกล่าวไม่พอใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าวพาตนไปพบกับ พ.ต.ท.สันติ ปัญญาวงศ์ พงส.(สบ 2) และให้ตนตรวจปัสสาวะ จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ได้แจ้งผลตรวจว่าพบปัสสาวะมีสีม่วง หรือมีสารเสพติด และมีการแจ้งข้อกล่าวหาตนในข้อหาเสพยาเสพติดโดยไม่มีการสอบสวน หรือให้ตนไปตรวจผลอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงส่งตัวเข้าห้องขังที่ สน.คลองตันเป็นเวลา 4 วัน และในวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ถูกส่งฟ้องศาลจังหวัดพระโขนง ในคดีเสพยาเสพติด ซึ่งมีการระบุว่าจับกุมตัวที่ลานจอดรถของโรงแรมชวาลา ซอยปรีดีพนมยงค์ 45 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ขณะนี้ตนกำลังจะถูกไล่ออกจากงานที่บริษัทที่ตนกำลังทำงานอยู่ ส่วนนายวรวุฒิ คู่กรณีผลการตรวจไม่มีสารเสพติด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้นายวรวุฒิให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านำโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือมาแลกกับยา
น.ส.อารยากล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องยอมรับข้อกล่าวหา เพราะก่อนหน้าที่จะถูกนำตัวขึ้นศาลนั้น ตนได้ถูก ร.ต.อ.หญิง ฐานันดร บังคับให้เซ็นเอกสารบันทึกการจับกุมตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ยอมให้ตนอ่านรายละเอียดในเอกสาร และข่มขู่ว่าถ้าไม่เซ็นจะยัดข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้อีกข้อหาหนึ่ง ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายวรวุฒิมาก่อน เพียงแค่ในอดีตคนรู้จักเคยติดต่อให้มาช่วยขนของย้ายบ้านเท่านั้น หลังจากย้ายบ้านเสร็จเรียบร้อยก็จ่ายค่าตอบแทนและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยเพราะตนเห็นว่านายวรวุฒิมีลักษณะท่าทางไม่น่าไว้ใจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้แล้วก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ สน.คลองตัน ชุดที่ถูกกล่าวหาได้เตรียมตัวชี้แจงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเอาไว้แล้วว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่ทำการคัดลอกสำเนาบันทึกจับกุมคดีค้างเก่าจากคอมพิวเตอร์ แล้วลืมแก้ไขสถานที่จับกุม เมื่อนำตัว น.ส.อารยาไปส่งศาลจังหวัดพระโขนง เลยทำให้สำแดงรายละเอียดผิดพลาดไป
ความคืบหน้ากรณีร้องเรียนดังกล่าวที่ สน.คลองตัน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.ค. พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.คลองตัน เผยว่า คดีนี้เป็นสิทธิของผู้กล่าวหาซึ่งสามารถร้องทุกข์เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขณะนี้ตนทราบข่าวแล้วแต่ยังไม่ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนของ บก.ปปป.หากมีการทำหนังสือติดต่อมาเมื่อไหร่จะสั่งการให้ตรวจสอบไปตามขั้นตอนการปฏิบัติทันที ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจทำไปตามหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดกลั่นแกล้งผู้กล่าวหาแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีการนำหลักฐานว่าผู้กล่าวหาถูกจับกุมที่ลานจอดรถโรงแรมชวาลา ซอยปรีดีพนมยงค์ 45 ทั้งที่โดนจับบนโรงพักไปยื่นต่อ บก.ปปป.ด้วยนั้น เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดซึ่งเกิดขึ้นจากการเตรียมเอกสารขณะนำตัวไปส่งศาลเท่านั้น สามารถชี้แจงต่อผู้เกี่ยวข้องได้แน่นอน
ด้าน พ.ต.ต.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ สว.สส.สน.คลองตัน ซึ่งตกเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ตนขอยืนยันทำไปตามหน้าที่แน่นอน ในวันที่ น.ส.อารยาถูกลักทรัพย์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กภายในห้องพักรีเจนท์คอนโดมิเนียมแล้วเดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน ตนก็นำกำลังไปจับคนร้าย คือ นายวรวุฒิ หรือปอง ปาละสุทธิกุล อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุด้วยตนเอง ที่สำคัญพอจับมาแล้วก็แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรส่งพนักงานสอบสวนไปตามระเบียบ ยืนยันอีกด้วยว่านายวรวุฒิไม่ใช่สายตำรวจและตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ส่วนกรณีที่จำเป็นต้องจับ น.ส.อารยามาตรวจปัสสาวะ เพราะได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีซึ่งเกิดความสงสัยระหว่างที่กำลังสอบปากคำว่า น.ส.อารยาน่าจะมีพฤติกรรมเสพยาด้วยหรือไม่
พ.ต.ต.วชิรากรณ์กล่าวอีกว่า วันนั้นหลังจากที่พนักงานสอบสวนประสานมาให้เชิญตัว น.ส.อารยาไปตรวจหาสารเสพติด ตนและลูกน้องก็รีบเก็บตัวอย่างปัสสาวะจาก น.ส.อารยา ก่อนส่งไปตรวจคัดแยกสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.คลองตัน จากนั้นแพทย์ผู้ตรวจก็ส่งผลยืนยันมาว่าปัสสาวะเป็นสีม่วงเนื่องจากมีสารแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกายจริง ตนจึงต้องทำบันทึกจับกุม น.ส.อารยา ที่โรงพักแล้วคุมตัวไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่ น.ส.อารยายืนยันว่าไม่เคยเสพยา ตนก็อยากยืนยันว่าพวกตนทำไปตามหน้าที่และจับกุมตามผลตรวจของแพทย์ซึ่งมีเอกสารยืนยันด้วยจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นเรื่องบันทึกจับกุมซึ่งข้อเท็จจริง น.ส.อารยาถูกจับกุมบนโรงพัก แต่กลับพบเอกสารว่าโดนจับกุมที่ลานจอดรถโรงแรมชวาลา ซอยปรีดีพนมยงค์ 45 นั้น เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานสอบสวนหญิงผู้หนึ่งซึ่งตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ ได้ทำการคัดลอกสำเนาบันทึกจับกุมคดีค้างเก่าจากคอมพิวเตอร์ แล้วลืมแก้ไขสถานที่จับกุม เมื่อนำตัว น.ส.อารยาไปส่งศาลจังหวัดพระโขนง เลยทำให้สำแดงรายละเอียดผิดพลาดไป โดยกรณีนี้เจ้าหน้าที่ชุดที่ถูกกล่าวหาได้เตรียมตัวชี้แจงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเอาไว้แล้ว
