xs
xsm
sm
md
lg

สตม.รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-เงินดำหลายสัญชาติรายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวยุโรปหลายสัญชาติ ผู้ต้องหา 15 ราย
สตม.แถลงผลจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวยุโรปหลายสัญชาติ ได้ตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น 15 ราย อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ หลอกลวงให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น โดยใช้อาคารสุขุมวิท สวีท 13 เป็นตึกบัญชาการ สารภาพลวงเหยื่อให้โอนเงินมาลงทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศโลกที่สาม มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จับกุม 2 ผู้ต้องหาสัญชาติ ไลบีเรีย-กินี แก๊งเงินดำ หลอกลวงหญิงไทย

วันนี้ (6 ก.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.วรินทร์ บุณยเกียรติ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.สส.สตม.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝรั่งต้มตุ๋นซื้อขายหุ้น และแก๊งเงินดำ ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ 15 ราย ประกอบด้วย นายวิลเกส คอลิน จอส อายุ 53 ปี นายไวท์เลค มาร์ค เจสัน อายุ 27 ปี นายบาร์เนส โรส อายุ 34 ปี นายบัลวิน วินเซน เวสลี่ อายุ 43 ปี นายแพนซาล วีเลส รามาน อายุ 31 ปี นายแมสซี่ เรย์มอล อายุ 43 ปี ทั้งหมดสัญชาติอังกฤษ น.ส.รูสู เอมีร่า แคททารีน่า อายุ 32 ปี น.ส.ฮอร์เลนการ์ คาร์เมน ดาร์เนีบลล่า อายุ 32 ปี ทั้งหมดสัญชาติโรมาเนีย นายโซโรซ่า เคนเนท อายุ 27 ปี น.ส.เรย์มูลโด มิเชล อายุ 23 ปี นายเอเปีย นอร์เบิกร์ ซีซ่า อายุ 43 ปี ทั้งหมดสัญชาติฟิลิปปินส์ นายเฮอนานเดส เจอาร์ ลีโอนาร์ด ลี อายุ 33 ปี นายบราวนี่ แกลี่ เจมส์ อายุ 42 ปี ทั้งหมดสัญชาติอเมริกัน นายซูล ติโม อายุ 37 ปี สัญชาติเยอรมัน และ นายเรดดี่ ดาร์ลิน อัลเลน อายุ 29 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ พร้อมของกลางโทรศัพท์ 16 เครื่อง คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร และปรินเตอร์ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 19/132 อาคารสุขุมวิท สวีท ซ.สุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

พล.ต.ต.ปรีชา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวยุโรป หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้จะอ้างตัวเป็นนายหน้า หรือโบรกเกอร์ โดยมีการลักลอบใช้ห้องพักของอาคารดังกล่าว ใน ซ.สุขุมวิท เป็นฐานปฏิบัติการ จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ก็พบว่ากลุ่มคนร้ายได้เลือกเวลาในการทำงานตั้งแต่เวลา 13.00-00.00 น.ของทุกวัน เพื่อให้เป็นไปตามเวลากลางวันในโซนแถบยุโรป และอเมริกา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์จนเป็นที่แน่ชัด จึงได้นำกำลังพร้อมหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ ค.202/2555 ลงวันที่ 5 ก.ค.2555 เข้าค้นห้องพักดังกล่าว ก็พบผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติจำนวน 15 คน ประกอบไปด้วย สัญชาติอังกฤษ 6 คน ฟิลิปปินส์ 3 คน อเมริกา 2 คน โรมาเนีย 2 คน เยอรมัน 1 คน และ แอฟริกาใต้ 1 คน พร้อมของกลางดังกล่าวอยู่ในห้องพักจึงควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้มีการโทรศัพท์ไปหาเหยื่อผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นตัวแทน หรือโบรกเกอร์ หว่านล้อมให้เหยื่อร่วมลงทุน ซื้อหุ้น ซึ่งอาจจะทำกำไรได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งหลอกว่าให้นำเงินมาเพื่อช่วยเหลือประเทศในแถบประเทศโลกที่สาม เมื่อเหยื่อลงเชื่อทำการโอนเงินมา ก็จะให้โอนไปยังบัญชีของธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสร้างความเชื่อถือ ก่อนที่จะโอนเงินไปยังประเทศมาเลเซีย ก่อนจะโอนกลับมายังประเทศไทย ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้จะได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินทั้งหมด โดยมีเหยื่อที่หลงเชื่อส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป รวมมูลค่าความเสียหาย 8 ล้านเหรียญยูโร หรือประมาณ 320 ล้านบาท

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง และเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร พร้อมทั้งขออนุมัติเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศต่อไป หลังจากนี้ จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายเดวิส เอ แมค ไลเน อายุ 44 ปี สัญชาติไลบีเรีย และ นายอโบบาการ์ เดียโล อายุ 28 ปี สัญชาติกินี สองผู้ต้องหาแก๊งเงินดำ พร้อมของกลางน้ำยาสารเคมี 1 ขวด กระดาษสีดำตัดขนาดเท่ากับธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯจำนวนหนึ่ง และ ตู้เซฟ 1 ตู้ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ถ.สีลม และ ที่ร้านพิซซ่า ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.พระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม.

พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า มีแก๊งเงินดำหลอกลวงหญิงไทย โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นสาวไทยได้ติดต่อกับ นายฟิลิป สัญชาติอเมริกา ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดย นายฟิลิป ได้ใช้คารมหว่านล้อม ว่า หลงรักผู้เสียหาย และพร้อมจะขายทรัพย์สินที่มีมาลงหลักปักฐานใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย ต่อมา นายฟิลิป ได้ให้ผู้เสียหายไปรับกระเป๋าเดินทาง พร้อมตู้เซฟจาก นายอโบบาการ์ เดียโล โดย นายอโบบาการ์ เดียโล ได้บอกกับผู้เสียหายว่า ภายในเซฟมีธนบัตรดอลลาร์สีดำ และ นายอโบบาการ์ เดียโล ได้ใช้น้ำยาสารเคมีมาล้างธนบัตรดังกล่าว ซึ่งกลายเป็นธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯฉบับละ 100 ดอลลาร์ และมอบให้ผู้เสียหาย ต่อมาคนร้ายได้โทรศัพท์มาเพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าน้ำยาจำนวน 147,000 บาท ภายหลังคนร้ายได้ขอให้โอนเงินมาอีก 1 ล้าน เพื่อแลกกับกุญแจเซฟ แต่ผู้เสียหายไหวตัวทัน จึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะวางแผนจับกุมได้ที่ร้านพิซซ่าดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับตัว นายเดวิส เอ แมค ไลเน อายุ 44 ปี สัญชาติไลบีเรีย หลังสืบทราบว่า นายเดวิส เอ แมค ไลเน อ้างกับกลุ่มผู้เสียหายชาวเกาหลี ว่า มีเงินดำจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะใช้น้ำยาล้างเพื่อเป็นธนบัตรจริง แต่ต้องนำเงินมาจำนวน 4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าซื้อน้ำยา โดยนัดแลกเปลี่ยนเงินกันที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ถ.สีลม แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทั้งหมด ว่า อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง และเบิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร พร้อมทั้งผลักดันออกนอกประเทศ และขออนุมัติเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศต่อไป
แก๊งเงินดำ
กำลังโหลดความคิดเห็น