xs
xsm
sm
md
lg

2 โจ๋ควงปืนจี้ร้านทอง เจ้าของร้านฮึดสู้คนร้ายเจ็บ 1

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร้่านทองที่เกิดเหตุ
 2 คนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองย่านรามอินทรา โดยใช้อาวุธปืนยิงใส่ตู้กระจก และกวาดสร้อยทองคำน้ำหนัก 21 บาท ก่อนขับมอเตอร์ไซค์ หลบไปเข้าไปภายใน ซ.รามอินทรา 37 ระหว่างชุลมุน เจ้าของร้านชักปืนยิงต่อสู้ไป 4 นัด ถูกคนร้ายบาดเจ็บ 1 ราย พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ ตร.ทำการปิดล้อม และสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งสองคน เป็นเยาวชนอายุ 19 และ 17 ปี สารภาพ อยากมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นและจะเอาเงินไปแต่งงาน

วันนี้ (6 ก.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา เอี่ยมพ่อค้า พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราช เลขที่ 31/8 ถนนรามอินทรา กม.4 ตั้งอยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 37 กับ 39 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนรามอินทรา กม.4 ภายในร้านทองเยาวราช ซึ่งไม่มีลูกกรงเหล็ก พบประตูกระจกด้านหน้าแตกกระจายละเอียด ตู้กระจกทองแตกกระจัดกระจาย และที่ตู้โชว์ทองรูปพรรณด้านหลังเป็นรูใหญ่จำนวน 2 รู พบเจ้าของร้านยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายสานิตย์ โปร่งจินา อายุ 43 ปี เจ้าของร้านทอง ให้การว่า ขณะอยู่ในร้านกับพนักงานอีกหนึ่งคน ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่ จยย.ยามาฮ่า สีม่วง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าร้าน แล้วเดินดิ่งเข้ามา พร้อมชักอาวุธปืน ซึ่งคนร้ายทั้งคู่สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์ หมวกกันน็อกเต็มใบ ตนและพนักงานจึงรีบหลบไปทางด้านหลังร้าน จากนั้นหนึ่งในคนร้ายใช้เหล็กตีเข้าไปที่ตู้ทอง แต่กระจกไม่แตก ส่วนคนร้ายอีกคน จึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าไปที่ตู้กระจก แล้วลงมือกวาดทองรูปพรรณในตู้โชว์ ระหว่างนั้นตนจึงหยิบปืนขนาด .45 แล้วยิงจากด้านหลังร้านออกมาจำนวน 4 นัด ทำให้คนร้ายยิงตอบโต้สวนกันไป กระทั่งคนร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 คน จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีออกไปในซอยรามอินทรา 37 ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ระดมปิดล้อมภายในซอยรามอินทรา 37 พบว่า คนร้ายไปหลบอยู่ในอู่ซ่อมรถ TKS มอเตอร์ จึงนำกำลังเข้าจับกุม พบสร้อยคอทองคำ จำนวน 21 เส้น น้ำหนักรวม 21 บาท ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.บางเขน ทราบชื่อว่า นายสิทธิโชค หรือ ปาล์ม แก้วกล้า อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 ม.8 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.และเยาวชนอายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.6 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ซึ่งถูกยิงเข้าที่หลังและท้อง นำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล มีอาการบาดเจ็บสาหัสอยู่ห้องไอ.ซี.ยู.

ด้าน นายสานิตย์ เจ้าของร้านทอง กล่าวอีกว่า ตนเปิดร้านทองมากว่า 8 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยวินาทีที่คนร้ายเข้ามาชิงทรัพย์นั้น ตนได้รีบกระโดดหลบไปยังด้านหลังร้าน และหยิบปืนยิงต่อสู้กับคนร้ายผ่านกระจก เพราะไม่กล้าออกมาด้านหน้า เนื่องจากคนร้ายมีปืน ซึ่งตอนนั้นในใจตนคิดว่าต้องสู้เต็มที่ เพราะไม่ยอมให้คนร้ายยิงตนเสียชีวิตและเอาทองไปเด็ดขาด เนื่องจากตนดูข่าวมักจะพบว่าเจ้าของร้านถูกยิงเสียชีวิตบ้าง และก็มีเพื่อนตนที่เปิดร้านทองก็โดนโจรชิงทรัพย์ไปเยอะ ก็ไม่ได้ทองคืน จึงต้องฮึดสู้สุดใจ แต่ก็โชคดีที่ตนหลบไปด้านหลังร้านทัน ไม่เช่นนั้นก็คงถูกโจรยิงเสียชีวิตไปแล้ว

จากการสอบสวน นายสิทธิโชค ให้การว่า มีอาชีพแจกโบรชัวร์ตามบ้านได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่อยากมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น แม้แต่เคเอฟซีก็ยังไม่มีเงินจะซื้อกิน และจะเอาเงินไปแต่งงานด้วย จึงลงมือก่อเหตุ โดยใช้อาวุธปืนที่มีคนนำมาจำนำไว้ 2,000 บาท ส่วนเยาวชน 17 ปี พบประวัติเคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ในท้องที่ สน.บางเขน และผู้ต้องหาเป็นสมาชิกของแก๊งโอบอย ที่มีพฤติกรรมเสพยา และลักวิ่ง ชิง ปล้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันชิงทรัพย์ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2 คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น