ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เลือกองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน เพื่อพิจารณาคดีอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ทักษิณ-อดีตผู้บริหารแบงก์กรุงไทย” ทุจริตปล่อยกู้เงินเครือกฤษดานคร พร้อมนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ 25 ก.ค.นี้
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ได้มีการนัดประชุมใหญ่เพื่อลงมติเลือกองค์คณะผู้พิพากษา จำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาพิพากษา คดีหมายเลขดำ อม.3/2555 ที่ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ 1, นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือของ บริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502, ความผิด พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505, ความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และ ความผิด พ.ร.บ.บริษัท มหาชน จำกัด พ.ศ.2535
โดยที่ประชุมใหญ่มีมติเลือก นายมานัส เหลืองประเสริฐ รองประธานศาลฎีกา, นายดิเรก อิงคนันท์ รองประธานศาลฎีกา, นายวีระวัฒน์ ปวราจารย์ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา, นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา, นายชัยวัฒน์ เวียงธีรวัฒน์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา, นายมนูพงศ์ รุจิกัณหะ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา, นายชินวิทย์ จินดาแต้มแก้ว ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา, นายพันวะสา บัวทอง ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา และนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเลือกผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คนแล้ว ต่อไปองค์คณะจะได้ประชุมภายในเพื่อลงมติเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ขณะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาหรือไม่ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.