ผอ.เกษตรฯ แจ้งจับลูกน้องปลอมเอกสารโกงจัดซื้อสินค้า

ผอ.ส่วนส่งเสริมการผลิตข้าว กระทรวงเกษตรฯ แจ้งความจับลูกน้องปลอมแปลงเอกสารราชการทุจริตจัดซื้อสินค้า ทำความเสียหายให้ระบบราชการคิดเป็นมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท เผยผู้ต้องหาหนีงานไปแล้ว 2 เดือน

วันนี้ (25 มิ.ย.) พ.ต.ท.แบ๊งค์ บัวนวล พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางเขน ได้รับแจ้งจาก นายวิเศษศักดิ์ ศรีสุริยะธาดา ผอ.ส่วนส่งเสริมการผลิตข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าถูกนางอัจภรณ์ วิชานำ เจ้าพนักงานธุรการสำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลอมแปลงเอกสารทางราชการในการสั่งซื้อสิ่งของ พร้อมกับตัวแทน 14 บริษัทที่ได้รับความเสียหายร่วมเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับนางอัจภรณ์ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายจาก 14 บริษัท ยอดเงินค้างชำระจำนวน 3,944,875.50 บาท

นายวิเศษศักดิ์ ศรีสุริยะธาดา ผอ.ส่วนส่งเสริมการผลิตข้าว เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2555 ทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้รับใบแจ้งหนี้ให้ชำระหนี้จากหลายบริษัท เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ได้มีการจัดซื้อสินค้าตามที่ระบุไว้ ทำให้เกิดความสงสัย ต่อมาได้สำรวจจากฝ่ายการเงินและงบประมาณ ปรากฏว่าไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว จึงได้ขอดูใบสั่งซื้อตามที่บริษัทกล่าวอ้าง พบว่าเอกสารในใบสั่งซื้อเป็นลายเซ็นปลอมของผู้มีอำนาจในการลงนาม จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงกัต่อบนางอัจภรณ์ที่เป็นคนเซ็นรับสินค้าเพื่อหาข้อเท็จจริง พร้อมกับย้ายนางอัจภรณ์ให้ไปช่วยงานในตำแหน่งอื่น โดยที่สอบยังไม่แล้วเสร็จ จนขณะนี้นางอัจภรณ์ได้ขาดงานเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ด้าน นายวัฒนา รัตนพิมล หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.วี.เอส.พี เซอร์วิส แอนด์ ซัพลาย ให้การว่า ได้รับโทรศัพท์การติดต่อจากกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อประมาณต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่าจะสั่งซื้อสินค้าเป็นหมึกพิมพ์ยี่ห้อ HP รวมมูลค่า 544,202 บาท จากนั้นมีใบสั่งซื้อของทางกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีนางอัจภรณ์เป็นคนนำเอกสารใบสั่งซื้อมาให้ จากนั้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2555 ได้เข้าไปส่งมอบของให้กับนางอัจภรณ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งนางอัจภรณ์ได้เป็นคนเซ็นรับสินค้าดังกล่าวไป

จากนั้นเมื่อถึงวันกำหนดชำระเงินจึงได้ส่งเอกสารไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร แต่ต่อมาได้มีหนังสือปฏิเสธจากกรมส่งเสริมการเกษตรกลับมาว่าไม่ได้มีการสั่งซื้อสินค้าดังกล่าว จึงรวบรวมเอกสารและหลักฐาน พร้อมตัวแทนอีก 14 บริษัทมาแจ้งความดำเนินคดีต่อนางอัจภรณ์

พ.ต.ท.แบ๊งค์กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และจะเร่งติดตามตัว น.ส.อัจฉภรณ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว