สืบนครบาลแกะรอยจากไอโฟน 4 รวบกะเทยและหนุ่มคู่ขาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชนก่อนทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ รับสารภาพคบหาเป็นแฟนกันตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษจึงชวนกันก่อเหตุ โดยทำมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ นำเงินไปซื้อยาไอซ์มาเสพ
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมแถลงผลการจับกุม นายวิรัตน์ หรือเป้ เวชวิบูลย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซ.อ่อนนุช 73/1 แขวงและเขตประเวศ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายศาลมีนบุรี 941/54 ลงวันที่ 1 ธ.ค.2554 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ สน.จระเข้น้อย และนายวีระกิจ หรือหน่อย สมนัททวีชัย อายุ 34 ปี สาวประเภทสอง อยู่บ้านเลขที่ 436 ซ.ตลาดศธรทิพย์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ผู้ต้องหาตามหมายศาลมีนบุรี 942/54 ลงวันที่ 1 ธ.ค.2554 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ สน.จระเข้น้อย พร้อมของกลาง พระพุทธรูป 2 องค์ บัตรเครดิต 6 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และกระเป๋าสตรีจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.พิสิฏฐ์เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 20 มิ.ย. 2555 เวลาประมาณ 09.45 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนร้ายได้แอบเข้าไป ภายในบ้านเลขที่ 67 ซ.เอกมัย 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. และได้ทำร้ายร่างกายเจ้าของบ้าน พร้อมกับลักทรัพย์สินหลายรายการก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลคนร้าย โดยพบว่าโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ที่คนร้ายได้ลักทรัพย์มาจากบ้านหลังเกิดเหตุนั้นถูกนำไปขายต่อที่ย่านคลองเตย จนเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยขยายผลจับกุมคนร้ายได้ทั้งคู่
จากการสอบสวนนายวิรัตน์ หรือเป้ ให้การรับสารภาพว่า ตนและหน่อยรู้จักกันมาตั้งแต่ในเรือนจำแล้ว ซึ่งคบเป็นแฟนกัน โดยตนจะเป็นผู้ชาย ส่วนหน่อยจะเป็นผู้หญิง จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ และได้ตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านเรือนทั่วไป โดยตนและหน่อยจะนั่งรถประจำทางไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่เจาะจงบ้านสักเท่าไร แต่จะเข้าไปลักทรัพย์ ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน เพราะออกไปทำงานกันส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ตนจะเข้าไปภายในบ้านเพียงคนเดียว และให้หน่อยเป็นคนคอยดูต้นทาง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนและหน่อยได้เข้าไปชิงทรัพย์บ้านหลังเกิดเหตุจริง และก่อเหตุมาหลายครั้งในหลายพื้นที่ มากกว่า 10 คดี ส่วนเงินที่ได้จะนำไปซื้อยาไอซ์เสพด้วยกันทั้ง 2 คน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
