สองกะเทยแสบลักเงินแท็กซี่ยัดใส่กระป๋องแป้ง หาเงินเข้าบ่อนการพนัน

สองกะเทยแสบทำทีเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งย่านพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ อาศัยคนขับเผลอหยิบเงินสดยัดใส่กระป๋องแป้ง คนขับแท็กซี่เห็นท่าไม่ดีตรวจสอบเงินแล้วหายไป ตัดสินใจแจ้งตำรวจให้ตรวจค้น ผ่ากระป๋องแป้งเจอเงินสด 8,000 บาท นำตัวไปค้นบ้านพักย่านสำเหร่พบยาบ้าอีก 29 เม็ด รับสารภาพชอบเล่นการพนันที่บ่อนย่านกิ่งเพชร เงินที่ได้จะนำมาสะสมไว้ก่อนเมื่อจำนวนมากพอจึงเข้าไปเล่นการพนัน

วันนี้ (12 มี.ค.) เวลา 17.30 น. พ.ต.ท.วันชัย คงเพียรธรรม สวป.สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ แถลงการจับกุมสาวประเภทสอง ขโมยเงินแท็กซี่ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย นายพิชชานันท์ หรือเต๋า ภานุโสภา นายโจ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ทั้งคู่เป็นสาวประเภทสอง พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 8,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระป๋องแป้ง 3 กระป๋อง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 23 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ

พ.ต.ท.วันชัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เรียกแท็กซี่สหกรณ์สหมิตร ทะเบียน ทร-3705 กทม. สีชมพู ซึ่งมีนายจำนงค์ พันธะนาม อายุ 52 ปี เป็นคนขับ จากปากซอยสุขสวัสดิ์ 1 ให้ไปส่งที่แยกพระสุมทรเจดีย์ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยมีนายโจนั่งข้างเบาะคนขับ ส่วนนายพิชชานันท์นั่งด้านหลังเบาะคนขับ เมื่อรถได้วิ่งไปสักระยะช่วงขึ้นสะพานข้ามแยกถนนพระราม 2 นายจำนงค์ได้สังเกตเห็นว่าโทรศัพท์ของตนหายไปจึงถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่าเห็นโทรศัพท์ไหม นายพิชชานันท์จึงบอกให้นายโจคืนโทรศัพท์ให้กับคนขับแท็กซี่ ระหว่างนั้นนายพิชชานันท์อาศัยที่คนขับเผลอยื่นมือไปที่ข้างประตูคนขับ เพื่อหยิบกระเป๋าเงินที่เก็บไว้ในช่องเก็บของข้างประตู และหยิบเงินจำนวนดังกล่าววางไว้ที่พื้นก่อนจะใช้เท้าเขี่ยเงินไปที่ใต้เบาะคนขับแล้วเอากระเป๋าเงินไปไว้ที่เดิม แต่นายจำนงค์ได้เห็นแขนของนายพิชชานันท์จึงรีบเปิดกระเป๋าเงินดูและไม่พบเงินอยู่ในกระเป๋า จึงสั่งให้นายโจไปนั่งที่เบาะด้านหลัง ซึ่งระหว่างที่นายโจมานั่งที่เบาะด้านหลังนั้น นายพิชชานันท์ได้เอาเท้าเขี่ยเงินออกจากที่ซ่อนเพื่อนำมาให้นายโจเอามายัดใส่กระป๋องแป้งที่เตรียมมา ด้านนายจำนงค์ได้สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่าเห็นเงินที่หายไปหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงรีบหาเงินจนทั่วแล้วก็ไม่พบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นและผ่ากระป๋องแป้งดังกล่าวจึงพบว่าเงินสดซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวทั้ง 2 คนไว้แล้วนำไปค้นที่บ้านพักย่านสำเหร่ พบยาบ้าอีกจำนวน 29 เม็ด พร้อมเครื่องชั่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักของนายพิชชานันท์

จากการสอบสวนนายพิชชานันท์ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายโจมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยเจอกันตามสถานบันเทิง และตนเป็นคนที่ชอบเข้าบ่อนเล่นการพนัน จึงได้ชักชวนกันมาเล่นการพนันที่บ่อนย่านกิ่งเพชร โดยตนจะเข้าบ่อนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ซึ่งตนไม่ได้ทำงานอะไร ส่วนเงินที่เอาไปเล่นการพนันนั้นเป็นเงินที่ทางบ้านส่งมาให้ใช้จ่ายส่วนตัว และตนนำมาสะสมไว้จนมากพอจึงเข้าไปเล่นการพนัน สำหรับการขโมยเงินครั้งนี้นั้นยังไม่ได้จะเอาไปเล่นการพนันแต่อย่างใด เพียงแต่นำมาเก็บไว้ก่อนเมื่อได้จำนวนที่มากพอจึงจะเข้าไปเล่นการพนัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น และครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป