ศาลสั่งจำคุก 11 ปี 6 เดือนจำเลยกับพวกในคดีใช้มีดจี้ผู้เสียหายชิงทรัพย์และข่มขืน เหตุเกิดที่ปากซอยแจ้งวัฒนะ 28
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลิม หรือเอ๋ หรือเต่า หรือป่าน บัวอ่อน อายุ 37 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะฯ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง
คำฟ้องโจทก์สรุปความผิดจำเลยระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 52 จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเยาวชนได้ใช้มีดจี้ผู้เสียหายและบังคับให้ขึ้นจักรยานยนต์ของจำเลยกับพวกไป เพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมทั้งใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย เพื่อชิงทรัพย์ของผู้เสียหายรวม 4 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 5,800 บาท เหตุเกิดที่ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เกี่ยวพันกัน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายเบิกความเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่ถูกจี้บังคับจากปากซอยแจ้งวัฒนะ 28 ไปจนถึงที่เกิดเหตุ อีกทั้งผู้เสียหายเป็นผู้หญิงไม่น่าจะเบิกความเท็จในเรื่องการถูกข่มขืน เพราะเป็นเรื่องเสียหายและสร้างความอับอาย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมบรรยายเหตุการณ์ตรงกับผู้เสียหาย เห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 23 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 11 ปี 6 เดือน คืนเงิน 5,800 บาทต่อผู้เสียหาย และให้นับโทษต่อจากคดีที่ศาลอาญา และศาลจังหวัดปทุมธานี พิพากษาไว้ก่อนหน้านี้
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลิม หรือเอ๋ หรือเต่า หรือป่าน บัวอ่อน อายุ 37 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะฯ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง
คำฟ้องโจทก์สรุปความผิดจำเลยระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 52 จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเยาวชนได้ใช้มีดจี้ผู้เสียหายและบังคับให้ขึ้นจักรยานยนต์ของจำเลยกับพวกไป เพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมทั้งใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย เพื่อชิงทรัพย์ของผู้เสียหายรวม 4 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 5,800 บาท เหตุเกิดที่ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เกี่ยวพันกัน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายเบิกความเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่ถูกจี้บังคับจากปากซอยแจ้งวัฒนะ 28 ไปจนถึงที่เกิดเหตุ อีกทั้งผู้เสียหายเป็นผู้หญิงไม่น่าจะเบิกความเท็จในเรื่องการถูกข่มขืน เพราะเป็นเรื่องเสียหายและสร้างความอับอาย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมบรรยายเหตุการณ์ตรงกับผู้เสียหาย เห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 23 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 11 ปี 6 เดือน คืนเงิน 5,800 บาทต่อผู้เสียหาย และให้นับโทษต่อจากคดีที่ศาลอาญา และศาลจังหวัดปทุมธานี พิพากษาไว้ก่อนหน้านี้