ผกก.1 บก.ป.สั่งตรวจสอบคดีนักธุรกิจรื้อถอนอาคารแจ้งจับกลุ่มชายฉกรรจ์ถืออาวุธปืนข่มขู่และปล้นทรัพย์ว่าทั้งหมดเป็นทหารจริงหรือไม่ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.ท.ชวลิต หาญเสน่ห์ลักษณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ นายธะเร ศรีแสนสุข อายุ 40 ปี นักธุรกิจรื้อถอนอาคารบ้านเรือน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อทหารกว่า 40 นายที่บุกรุกและทำร้ายร่างกายคนงานก่อสร้างที่กำลังรื้อถอนอาคารร้าง ถนนพระราม 3 ก่อนขนอุปกรณ์เครื่องมือก่อสร้างรวมมูลค่า 2 แสนบาทไป นอกจากนี้ยังเคยถูกข่มขู่เรียกเงิน 40 ล้านบาทว่า ตนได้รับเรื่องพร้อมทั้งสอบปากคำนายธะเรไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังต้องสอบรายละเอียดและหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าทุกข์ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพางไว้ในคดีบุกรุก แต่พอมาที่กองปราบปรามก็ได้แจ้งเพิ่มเติมในคดีปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ
พ.ต.ท.ชวลิตกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายธะเรได้นัดว่าจะนำภาพถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอคลิปในวันเกิดเหตุมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหากตรวจสอบรายละเอียดแล้วมีมูล มีการข่มขู่ กระทำการเป็นขบวนใหญ่ ทางตนก็จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาให้เข้าร่วมทำคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป.กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายไว้ พร้อมทั้งประสานข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ที่เจ้าทุกข์เคยไปแจ้งความมาก่อน อีกทั้งจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่นายธะเรอ้างว่าถืออาวุธปืนมาข่มขู่ และปล้นทรัพย์ไปนั้นเป็นทหารจริงหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะเสนอผู้บังคับบัญชาเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
