ตำรวจกองปราบ บุกจับชาวไทยร่วมกับชาวเวียดนาม ลักลอบค้าซากสัตว์ ได้ซากเสือโคร่ง เสือดำ และเสือปลา ซุกซ่อนไว้ในตู้แช่แข็ง รอขนย้ายส่งไปให้ลูกค้า ผ่านชายแดน เข้าลาว เวียดนาม และไปสิ้นสุดที่จีนแผ่นดินใหญ่ นำไปปรุงเป็นยาบำรุงกำลัง
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป. พร้อมกำลังจับกุม นายชวินธร ทองถิ่น อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 3 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และนายโฮ ชวน หยัด สัญชาติเวียดนาม อายุ 28 ปี พร้อมของกลางเป็นซากเสือโคร่งเต็มตัว 1 ตัว ซากเสือโคร่งถูกตัดหัว 1 ตัว ซากเสือโคร่งถูกตัดครึ่งตัว 1 ท่อน ซากเสือดำ 1 ตัว และซากเสือปลา 1 ตัว รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวี โก้สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฒฒ 563 กทม. และโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเดียวกัน ทะเบียนป้ายแดง ก 6900 กทม. โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 4 ซอยแยกสวนสยาม 2 แยก 4 ถนนสวนสยาม แขวงและเขต คันนายาว กทม.
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.พล พิชัยยุทธ รอง ผกก.ฝอ.บก.ป. พ.ต.ท.ธีระพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าซากสัตว์ป่าโดยจะนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอการขนย้ายไปส่งให้ลูกค้า จึงนำหลักฐานไปขอศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 428/2555 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบตู้แช่แข็ง 2 ตู้ ภายในมีซากสัตว์ป่าเก็บไว้ในกระสอบอย่างมิดชิด จึงยึดของกลางทั้งหมด พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าซากสัตว์ทั้งหมดรับมาต่อจากเอเยนต์ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อนำมาเก็บไว้ที่บ้านหลังนี้เพื่อรอส่งต่อไปยัง จ.หนองคาย และส่งต่อไปยังประเทศลาว โดยจะมีนายทุนชาวเวียดนามรอรับเพื่อขนย้ายไปส่งให้ลูกค้าชาวจีน โดยรับค่าจ้างการดูแลซากสัตว์เป็นเงินจำนวน 8,000 บาท
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า สัตว์ป่าเหล่านี้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อส่งออกไปที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และส่งต่อไปยังปลายทางประเทศจีน คาดว่าซากสัตว์ป่าเหล่านี้ไปใช้ในการบริโภคตามความเชื่อในเรื่องการบำรุงกำลัง ซึ่งหากลักลอบนำเข้าไปถึงประเทศจีนได้ ซากสัตว์ป่าเหล่านี้ เช่น ซากเสือโคร่งตัวละ 7 แสนบาท ซากเสือดำ เสือปลาตัวละ 2 แสนบาท ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าตัว
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบก.ป. พร้อมกำลังจับกุม นายชวินธร ทองถิ่น อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 3 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และนายโฮ ชวน หยัด สัญชาติเวียดนาม อายุ 28 ปี พร้อมของกลางเป็นซากเสือโคร่งเต็มตัว 1 ตัว ซากเสือโคร่งถูกตัดหัว 1 ตัว ซากเสือโคร่งถูกตัดครึ่งตัว 1 ท่อน ซากเสือดำ 1 ตัว และซากเสือปลา 1 ตัว รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวี โก้สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฒฒ 563 กทม. และโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเดียวกัน ทะเบียนป้ายแดง ก 6900 กทม. โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 4 ซอยแยกสวนสยาม 2 แยก 4 ถนนสวนสยาม แขวงและเขต คันนายาว กทม.
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.พล พิชัยยุทธ รอง ผกก.ฝอ.บก.ป. พ.ต.ท.ธีระพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าซากสัตว์ป่าโดยจะนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอการขนย้ายไปส่งให้ลูกค้า จึงนำหลักฐานไปขอศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 428/2555 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบตู้แช่แข็ง 2 ตู้ ภายในมีซากสัตว์ป่าเก็บไว้ในกระสอบอย่างมิดชิด จึงยึดของกลางทั้งหมด พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าซากสัตว์ทั้งหมดรับมาต่อจากเอเยนต์ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อนำมาเก็บไว้ที่บ้านหลังนี้เพื่อรอส่งต่อไปยัง จ.หนองคาย และส่งต่อไปยังประเทศลาว โดยจะมีนายทุนชาวเวียดนามรอรับเพื่อขนย้ายไปส่งให้ลูกค้าชาวจีน โดยรับค่าจ้างการดูแลซากสัตว์เป็นเงินจำนวน 8,000 บาท
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า สัตว์ป่าเหล่านี้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อส่งออกไปที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และส่งต่อไปยังปลายทางประเทศจีน คาดว่าซากสัตว์ป่าเหล่านี้ไปใช้ในการบริโภคตามความเชื่อในเรื่องการบำรุงกำลัง ซึ่งหากลักลอบนำเข้าไปถึงประเทศจีนได้ ซากสัตว์ป่าเหล่านี้ เช่น ซากเสือโคร่งตัวละ 7 แสนบาท ซากเสือดำ เสือปลาตัวละ 2 แสนบาท ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าตัว