ผู้รอดตายยังไม่พร้อมให้การสาเหตุตกนั่งร้านตึกใบหยก

ตร.เลื่อนสอบปากคำ 2 คนงาน ผู้รอดตายจากเหตุการณ์กระเช้านั่งร้านตกจากชั้น 68 ตึกใบหยก 2 เหตุสภาพจิตใจยังไม่พร้อม และติดงานศพญาติที่เสียชีวิต

วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนงานตกจากกระเช้านั่งร้านชั้นที่ 68 ตึกใบหยก 2 บริเวณถนนราชปรารภ แขวงราชปรารภ เขตราชเทวี กทม.ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 คน เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วประมาณ 8-9 ปาก ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ตาย และเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์ รวมถึงบริษัทเจ้าของกระเช้า โดยวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ที่มีการนัดหมายให้ นายเพลินจิต กองอุดม อายุ 30 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ และ นายสุวิเชษฐ์ หรือ ดอน จันทร์ผ่อง ไม่ทราบอายุ พนักงานบริษัท คิวแอด แอทเวอร์ไทซิ่ง ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เนื่องจากผู้ตายที่เป็นญาติกับ นายเพลินจิต และ นายสุวิเชษฐ์ กำลังอยู่ระหว่างจัดการเรื่องพิธีศพที่บ้านเกิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงไม่สะดวกเดินทางมาให้ปากคำ อีกทั้งสภาพจิตใจยังไม่พร้อม จึงขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นสัปดาห์หน้าแทน

พ.ต.ท.โชติ กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ใครจะผิดหรือถูกคงจะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความประมาทของบุคคล หรือว่ากระเช้านั่งร้านอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งาน ซึ่งต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อนจะสรุปสำนวนคดีได้ สำหรับการเยียวยาเรื่องค่าเสียหายนั้น ทางบริษัทของผู้ตาย และทางญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้ตกลงพูดคุยถึงในเรื่องรายละเอียดต่างๆ เพราะกำลังยุ่งเรื่องการจัดพิธีศพที่ต่างจังหวัด จึงต้องรอหลังงานศพเสร็จสิ้น และคาดว่า จะสามารถเรียกมาพูดคุยกันในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.พญาไท เจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ตั้งเป็นคณะทำงานสอบสวน ประกอบด้วย พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยมีตนและพนักงานสอบสวน ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย หลังจากนี้ จะต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าที่ที่ทุบกระจกช่วยผู้รอดชีวิต และเปรียบเทียบกระเช้าที่เกิดอุบัติเหตุกับกระเช้าของบริษัทอื่นๆ ว่า ได้มาตรฐานถูกต้อง หรือมีการดัดแปลงต่อเติมหรือไม่ รวมทั้งรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อนำมารวบรวมหาสาเหตุให้ได้ข้อมูลกระจ่างชัดที่สุด ซึ่งหากพบความผิดก็จะพิจารณา ว่า เป็นความผิดที่ตัวบุคคลหรือวัตถุ แล้วใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อนำมาประชุมสรุปสำนวนคดีต่อไป