xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่ชาวกะเหรี่ยง ฟ้องกรมอุทยานฯ เผาไล่ที่เรียก 2.6 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพประกอบข่าว
ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ในพื้นที่แก่งกระจาน ฟ้องกรมอุทยานฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ ปล่อย จนท.ป่าไม้เผาบ้านเรือน ยุ้งฉางข้าว รวมถึงผลกระทบด้านจิตใจ เรียกค่าเสียหาย 2.6 ล้านบาท ขณะที่ศาลแพ่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาต่อไป

วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายน่อแอะ หรือหน่อเอะ มีมิ อายุ 51 ปี ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง อาชีพเกษตรกร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานละเมิด ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เรียกค่าเสียหายจำนวน 2,622,500 บาท และขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันประกาศขอโทษโจทก์และชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นระยะเวลา 15 วัน

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า โจทก์เป็นชาวไทยพื้นเมืองดั้งเดิมเชื้อสายกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ อยู่ที่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบ้านกลอยบน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มาหลายชั่วอายุคน ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้รับการสำรวจสถานะบุคคล ปรากฏตามสำเนาทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคลในบ้านมีสิทธิเสรีภาพ ได้รับการรับรองและคุ้มครองสิทธิตามอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ การฟ้องร้องคดีนี้โจทก์ได้ร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ

โดยเมื่อระหว่างวันที่ 5-9 พ.ค. 54 เวลาใดไม่ปรากฏชัด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ในฐานะหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตามแผนโครงการขยายผลการอพยพ ผลักดัน จับกุม ชุมชนกลุ่มน้อยที่บุกรุกพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ยังไม่ทราบชื่อและจำนวน ละเมิดต่อโจทก์และชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบ้านกลอยบน เมื่อนายชัยวัฒน์ สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปในบ้านเรือนของโจทก์และชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ทั้งที่ไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปได้ หรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ พร้อมรื้อ ทำลาย จุดไฟเผาบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย ทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อน ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และสื่อสิ่งพิมพ์หลายสำนักว่าโจทก์และชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย เป็นกะเหรี่ยง เคเอ็นยู (KNU) เป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศเพื่อนบ้าน บุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความผู้อื่นให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของจำเลยทั้งสอง ยังปล้นทรัพย์เอาข้าวเปลือก เสื้อผ้า เงินทองของโจทก์ไป โดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพ และทรัพย์สิน ทำให้โจทก์และครอบครัวได้รับความเสียหาย ดังนั้น จำเลยทั้งสองในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องร่วมกันชดใช้สินไหมทดแทนต่อโจทก์จากการถูกกระทำละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จำนวน 500,000 บาท บ้านที่ทำจากไม้ไผ่ หลังคาบ้านมุงด้วยใบตะคร้อ เสาบ้านทำด้วยไม้ ถูกเผาคิดค่าเสียหาย ราคา 70,000 บาท ยุ้งฉางข้าวทำด้วยไม้ไผ่ ถูกเผา ราคา 40,000 บาท ข้าวเปลือก 60 กระสอบ ราคา 21,000 บาท ข้าวสาร 1 ปี๊บ ราคา 700 บาท ชุดเครื่องครัว ราคา 3,500 บาท มีด 1 เล่ม ราคา 500 บาท เข็มขัดเงิน 1 เส้น สร้อยคอเม็ดเงิน 1 เส้น ต่างหูเงิน 2 คู่ ราคา 50,000 บาท ชุดกะเหรี่ยงอายุกว่า 50 ปี 3 ชุด ราคา 300,000 บาท ดาบยาว 1 เล่ม ราคา 50,000 บาท เงินที่ได้จากการขายผลผลิตทางการเกษตรจำนวน 20,000 บาท เสื้อผ้า 4 ชุด ราคา 2,000 บาท ผ้าห่ม 10 ผืน ราคา 2,000 บาท กี่เอวสำหรับทอผ้า 2 ชุด ราคา 50,000 บาท เสียม 1 อัน ราคา 500 บาท ขวาน 2 อัน ราคา 1,000 บาท เคียว 5 อัน ราคา 2,500 บาท แห 1 ปาก ราคา 3,000 บาท ไก่ 4 ตัว ราคา 800 บาท แมว 5 ตัว ราคา 5,000 บาท ค่าเสียหายทางด้านจิตใจที่ถูกขับไล่ คิดเป็นเงิน 1,000,000 บาท ค่าเสียหายจากการถูกดูหมิ่นเกลียดชังในข้อความเป็นเท็จ คิดเป็นเงิน 500,000 บาท รวมค่าเสียหายจำนวน 2,622,500 บาท โดยโจทก์ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล

ศาลรับคำฟ้องไว้เพื่อพิจารณาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น