“เสี่ยอุ” เจ้าของค่าย ป.ประมุข ส่งทนายฟ้องแพ่งเรียก 100 ล้าน “บัวขาว-คณะผู้จัดมวยศึก Thai Fight-กกท.” หลัง บัวขาว ละเมิดสัญญาชกมวย ขึ้นชก 17 เม.ย.พร้อมร้องศาลไต่สวนเพื่อให้มีการคุ้มครองชั่วคราว ห้ามขึ้นชกทุกเวที ระบุ ยินดีหากไกล่เกลี่ย จ่อแจ้งความอาญา ม.157 สนง.กก.มวย กกท.ภายในสัปดาห์หน้า
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เวลา 16.00 น.นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก นายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หรือ เสี่ยอุ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด โดย นายนพพร วาทิน ผู้จัดการชกมวยศึก Thai Fight, นายวิษณุ อ่ำอนันต์ โปรโมเตอร์ หรือผู้จัดมวยขึ้นชก, ว่าที่ ร.ท.ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว, นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นจำเลยที่ 1-5 เรื่องละเมิดสัญญา เรียกค่าเสีย 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีที่ นายสมบัติ หรือ บัวขาว ได้ละเมิดสัญญาการขึ้นชกมวยที่เคยทำไว้กับค่าย ป.ประมุข โดย บัวขาว ได้ขึ้นชกศึก Thai Fight 2012 ที่ บจก.สปอร์ต อาร์ต จัดขึ้น เมื่อวันที่ 17 เม.ย.55 ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ โจทก์ยังยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้าม นายสมบัติ หรือ บัวขาว ขึ้นเวทีชกมวย ที่ บจก.สปอร์ต อาร์ต ที่จะมีขึ้นปลายปี 2555 รวมทั้งเวทีอื่นระหว่างที่ยังมีภาระผูกพันกับสัญญาของค่าย ป.ประมุข และห้าม ว่าที่ ร.ท.ธีรวัฒน์ ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้จัดการของบัวขาว ไปหาประโยชน์จากการอ้างเป็นผู้จัดการด้วย
โดยศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 1639/2555 ซึ่งศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อกำหนดวันสืบพยานในวันที่ 16 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น
นายวิวรรธน์ ทนายความ กล่าวว่า ค่าเสียหาย 100 ล้าน คิดคำนวณจากค่าเสียหายที่ค่ายมวยขาดประโยชน์ 26 ล้านบาท ค่าขาดไร้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดการชกมวยกว่า 170 ประเทศ 68 ล้านบาท และค่าเสียหายอื่นๆ ขณะที่การฟ้องคดีเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายของค่ายในการปกป้องตัวเอง และการขึ้นชกของบัวขาว ในวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งสำนักคณะกรรมการมวยที่ขึ้นตรงกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็รู้ดี แต่ยังสนับสนุนให้เกิดขึ้น ถ้าเรื่องนี้ไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะเป็นเยี่ยงอย่าง โดยเราพึ่ง พ.ร.บ.มวยไม่ได้แล้ว จึงต้องมาพึ่งศาลสถิตยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ในการฟ้องครั้งนี้ เรามีพยานหลักฐาน พร้อมจะแสดงในชั้นศาล โดยส่วนของบัวขาวเมื่อจะขึ้นชกก็ออกมายอมรับเองว่าทำผิดกฎหมาย ดังนั้น หลักฐานในคดีนี้ มีทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 17 เม.ย.รวมทั้งพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับค่าย ป.ประมุข ขณะที่สัปดาห์หน้า เราจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในสำนักคณะกรรมการมวย สังกัด กกท.ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วย
“การที่ค่าย ป.ประมุข ฟ้องครั้งนี้ ไม่ได้คิดโกรธแค้นใคร แต่ฟ้องเพราะป้องกันสิทธิ ส่วนคดีอาญายังไม่มีการฟ้องร้องบัวขาวในตอนนี้ โดยบัวขาวยังมีโอกาสเคลียร์เรื่องนี้ได้อยู่ แต่ต้องเข้าไปพบและพูดคุยกับค่ายให้รู้เรื่อง” ทนายความ กล่าวและว่า หากบัวขาวจะขอเข้ามาไกล่เกลี่ย ทางค่ายพร้อมจะพูดคุยด้วย เช่นเดียวกับคดีแพ่งนี้ ถ้าจะมีการเสนอช่องทางไกล่เกลี่ยเราก็ยินดี ส่วนเรื่องการไต่สวนขอคุ้มครองชั่วคราวห้ามบัวขาวขึ้นชกนั้น เราได้ขอให้ศาลนัดไต่สวนวันที่ 2 ก.ค.นี้ แต่หากไต่สวนแล้วศาลยังไม่มีคำสั่งคุ้มครอง เราก็จะใช้สิทธิ์ทางกฎหมายยื่นขอคุ้มครองเป็นครั้งๆ ไป
นายวิวรรธน์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนยังอยากจะฝากบอกไปถึง บจก.สปอร์ต อาร์ต และ นายนพพร วาทิน ด้วยว่า ที่เคยออกมาท้าทายอยากให้ฟ้อง ตอนนี้ก็ฟ้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งความจริงเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าที่จะเกิดขึ้น เพราะ นายนพพร เองมีชื่อเสียงและเคยเป็นผู้กำกับละครเวที โดยปี 2533 ก็ได้รับรางวัลจากละครเวทีเรื่องแรก เรื่อง พันท้ายนรสิงห์ ก็อยากให้ นายนพพรนึกถึงเนื้อหาละครเรื่องนั้น เพราะหาก นายนพพร นึกถึงเนื้อหาละครเรื่องนั้นตั้งแต่แรก ปัญหาแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น