xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอจับแก๊งแชร์ประมูลเพชร มูลค่าเสียหาย 400 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอจับสองสามีภรรยา ตั้งแก๊งหลอกเหยื่อเข้าร่วมธุรกิจประมูลเพชร โดยชักชวนให้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ ทำหน้าที่ประมูลซื้อขายเพชรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยจะได้ผลตอบแทนในอัตราสูงถึงร้อยละ 120 บาท หลอกให้เหยื่อตายใจด้วยเงินปันผลถึง 18 เดือน สุดท้ายมีวงเงินเสียหายกว่า 400 ล้านบาท

วันนี้ (26 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1
พ.ต.ท.ศันธนะ แก้วทับทิม รอง ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 แถลงการจับกุมแก๊งแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชนในพื้นที่ จ.นครปฐม และ กทม. มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท

นายธาริตกล่าวว่า คดีสืบเนื่องจากนางปุณยวีร์ รังสีอธิวัชร์ และพวกได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่าถูกนางศรีวรินทร์ พูนธนารมย์ หรือนางศันสนีย์ วนิชกีรติ และนายช่วงโชติ อัครปัญญวัฒน์ กับนางธนลักษณ์ หรือนางวงพลอย อัครปัญญวัฒน์ สองสามีภรรยา โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ถูกศาลออกหมายจับ ได้หลอกลวงผู้ร้องกับผู้เสียหายอื่นรวม 17 คน ในลักษณะการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยชักชวนให้ร่วมลงทุนในการประมูลเพชร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2553 ถึงวันที่ 6 ม.ค. 2555

นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 รายคือ นายช่วงโชติ และนางธนลักษณ์ หรือนางวงพลอย ส่วนนางศันสนีย์อยู่ระหว่างหลบหนี สำหรับพฤติการณ์คดีพบว่าผู้ต้องหาที่ 1 คือ นางศันสนีย์ได้วางแผนให้นายช่วงโชติ และนางวงพลอย ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มผู้เสียหาย ชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนกับนางศันสนีย์ โดยผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นหลานสาวของนายช่วงโชติ และให้ข้อมูลว่านางศันสนีย์ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับเพชรและการประมูลเพชรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยจะได้ผลตอบแทนในอัตราสูง ก่อนหน้านี้นายช่วงโชติ และนางวงพลอยได้ร่วมลงทุนแล้ว ได้ผลตอบแทนสูง 18% ต่อเดือน ดังนั้น ดีเอสไอจึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการนำเงินไปลงทุนที่อ้างว่าจะได้กำไรสูง เพราะอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

นายธาริตกล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์แห่งคดีนี้ นางศรีวรินทร์ ได้วางแผนให้นายช่วงโชติและนางธนลักษณ์ หรือนางวงพลอย ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับกลุ่มผู้เสียหาย ชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนกับนางศรีวรินทร์ โดยอ้างว่านางศรีวรินทร์ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับเพชร และร่วมเป็นคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ ทำหน้าที่ประมูลซื้อขายเพชรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยจะได้ผลตอบแทนในอัตราสูง ซึ่งก่อนหน้านี้นายช่วงโชติและนางธนลักษณ์ได้ร่วมลงทุนแล้ว ได้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 18 เดือน เมื่อผู้เสียหายเริ่มสนใจนายช่วงโชติ และนางธนลักษณ์ จะแนะนำนางศรีวรินทร์ให้รู้จักกับผู้เสียหาย ซึ่งนางศรีวรินทร์อ้างว่า มีร้านขายเครื่องประดับเพชรชื่อ ฮ.เฮง เฮง อยู่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม และยังเป็นคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ สามารถประมูลเพชรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะประมูลเพชรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทุกสิ้นเดือนตามโรงแรมใหญ่ใน กทม. เมื่อประมูลเพชรได้แล้วจะนำไปขายให้กับลูกค้าที่ต้องการเอง โดยผู้เสียหายไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพียงแต่รอรับผลประโยชน์ตอบแทนเท่านั้น โดยจะได้ผลตอบแทนอัตราร้อยละ 10 ของเงินลงทุนต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี

พ.ต.ท.ศันธนะกล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งข้อมูลการนำเข้า-ส่งออกสินค้าจากกรมศุลกากรปรากฏว่านางศรีวรินทร์ และห้างร้าน ฮ.เฮง เฮง ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกกับกรมศุลกากร และมีร้าน ฮ.เฮง เฮง ตั้งอยู่ที่ซอยละลายทรัพย์ จริง จำหน่ายสินค้าหลุดจำนำและนำเข้าอัญมณีจากต่างประเทศ แต่มีนางมนัสนันท์ รับเป็นเจ้าของร้าน โดยให้การว่าไม่เคยรู้จักกับนางศรีวรินทร์มาก่อน และตรวจพบเอกสารหลักฐานทางการเงินที่แสดงการโอนเงินระหว่างผู้เสียหายกับนางศันสนีย์หรือนางศรีวรินทร์ และผู้เสียหายกับนายพัฒน์พงษ์ สันติภราภพ บุตรชายนายช่วงโชติกับนางธนลักษณ์

“จากการสอบถามไปยัง นายสมชาย พรจินดารักษ์ นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ได้รับคำตอบว่า ประเทศไทยไม่เคยมีคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ ทั้งการจัดการประมูลเพชรเคยจัดครั้งเดียวเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยรู้จักนางศันสนีย์ หรือนางศรีวรินทร์ว่าเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกเพชรพลอย แต่อย่างใด” พ.ต.ท.ศันธนะกล่าว

พ.ต.ท.ศันธนะกล่าวอีกว่า เบื้องต้นดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตาม
พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค และจะขยายผลการจับกุมไปยังบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมขบวนการ ส่วนนางศันสนีย์ที่อยู่ระหว่างหลบหนีพบว่าบัญชีเงินฝากถูกถอนออกไปเกือบทั้งหมด ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ขณะนี้จึงมีเพียงบ้านย่านสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ปิดตายไม่มีผู้พักอาศัยมาตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 2554 เบื้องต้นจะส่งตัวผู้ต้องหาให้อัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาล ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล คาดว่าจะต้องใช้เงินประกันตัวมากถึง 1 ใน 3 ของมูลค่าความเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น