จับแล้ว มือปืนและผู้ร่วมขบวนการยิงร่างทรงเจ้าแม่อุมาเทวี ดับคาบ้านพัก ต่อหน้าสามี มือปืนซึ่งเป็นอดีต ตชด. รับสารภาพ เจ็บแค้นเพราะมีเรื่องขับรถเฉี่ยวชนกับ
ผู้ตาย และภรรยาผู้จ้างวาน ซึ่งเคยมีบุญคุณ เคยมาดูดวงจนทำให้ครอบครัวผู้จ้างวานแตกแยก จำต้องมาสังหาร ในขณะที่ตามแนวทางการสืบสวนระบุ สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน ซึ่งอาจพัวพันกับคดียาเสพติด ตำรวจกำลังเตรียมขยายผลต่อ
วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงการจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิงนางยุพดี สุธรรม อายุ 58 ปี ร่างทรงพระแม่อุมาเทวี โดยผู้ต้องหาใช้ปืนยิงไปที่ผู้ตายจำนวน 5 นัด เสียชีวิตทันที เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 63/1529 หมู่บ้านเคหะธานี 4 ถนนราษฎร์พัฒนา 5 ท้องที่ สน.บางชัน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า ผู้ต้องหาที่สามารถติดตามจับกุมได้ 4 คน ประกอบด้วย นายนครินทร์ อายุยง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/3 ม.10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทำหน้าที่เป็นมือปืน, นายเอก หรือสม จุลปัญญา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.2 ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำหน้าที่ชี้เป้าและเป็นเจ้าของรถเบนซ์ ผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายศุภสวัสดิ์ หรือโจ สวัสดีมงคล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ถ.เทศบาลสาย 2 ต.ยายร้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทำหน้าที่ติดต่อหาคนขับรถจักรยานยนต์ให้มือปืน ซึ่งเคยเป็นสายให้กับตำรวจมาก่อน และนายนฤพนธิ์ หรือต้น อักศรวง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซ.มอเตอร์เวย์ 14 แขวงคลองสามวา เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลางเป็นรถเบนซ์ รุ่น 280 SE สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 ศ-8348 กทม. รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง-ดำ ทะเบียน ฬลง 840 กทม. หมวกกันน๊อก และรองเท้าแตะ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุยังไม่พบ อยู่ระหว่างการติดตามค้นหา โดยสามารถจับกุมนายนครินทร์ได้ที่ จ.กาญจนบุรี และผู้ต้องหาอีก 3 คน จับกุมได้ที่กรุงเทพฯ ส่วนผู้จ้างวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอยู่ คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า พบภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด เป็นชายรูปร่างอ้วน
ขับรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหมวกกันน็อกตำรวจ และมีชายอีกคนสวมหมวกผ้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดพบว่าตรงกัน จึงเชื่อว่าชายรูปร่างอ้วนที่มาส่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพื้นที่โดยรอบพบว่า มือปืนที่ก่อเหตนั่งรถยนต์เบนซ์ รุ่น 280 SE สีน้ำเงิน เมื่อถึงปากทางเข้าหมู่บ้านได้ลงจากรถเบนซ์ และมีรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุวิ่งมารับมือปืนและขับมาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามในพื้นที่บริเวณรอบที่เกิดเหตุ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนี้ได้
จากการสอบสวนนายนครินทร์ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือยิงนางยุพดี จริง เคยเป็นมือปืนรับจ้าง และเคยเป็นตำรวจ ยศ ส.ต.อ. สังกัด กก.ตชด.13 จ.กาญจนบุรี แต่ถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดในปี 2536 สาเหตุในการลงมือสังหารคือ ก่อนหน้านี้ตนและนางยุพดี ขับขี่รถเฉี่ยวชนกัน แล้วนางยุพดีก็พูดจาด่าทอถึงมารดา จึงเกิดความไม่พอใจ
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า อีกสาเหตุหนึ่ง คือก่อนหน้านี้ ภรรยาของผู้จ้างวานเคยไปดูดวงและทำพิธีกรรมกับนางยุพดี และทายไปในทางที่ไม่ดี จึงทำให้ครอบครัวผู้จ้างวานต้องแตกแยก ผู้ต้องหาจึงตัดสินใจทำงานนี้เพราะเป็นการทดแทนบุญคุณที่มีต่อผู้จ้างวานด้วยที่เคยช่วยเหลือเรื่องงานต่างๆ ให้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สาเหตุปมสังหารดังกล่าวอาจมาจากการกู้หนี้สิน เงินกู้ที่ยืมไป โดยพบว่า ผู้จ้างวานให้มือปืนสังหารผู้ตาย ซึ่งมีมูลเหตุจากการวิ่งเต้นคดียาเสพติด โดยผู้ตายได้ยืมเงินเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้ไปวิ่งเต้นคดีให้บุตรสาวรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดี แต่ดำเนินการวิ่งเต้นไม่สำเร็จ และไม่มีเงินนำกลับไปใช้หนี้ ทำให้มีการทวงถามอยู่เรื่อยมา จนถูกฆ่าตายในที่สุด
นอกจากนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพยาน และคนใกล้ชิดของผู้ตาย พบว่า คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และสามารถนำไปสู่การออกภาพสเกตช์ของคนร้าย ซึ่งผู้เป็นสามีให้การว่า สามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายที่เป็นมือยิงได้อย่างชัดเจน และพบว่า มีผู้ต้องหาร่วมกระทำการดังกล่าวทั้งหมด 3 คน จนกระทั่งตำรวจตามจับกุมทีมสังหารได้ทั้งหมด ส่วนผู้จ้างวาน กำลังติดตามจับกุมอยู่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่ก่อเหตุต่อไป
ผู้ตาย และภรรยาผู้จ้างวาน ซึ่งเคยมีบุญคุณ เคยมาดูดวงจนทำให้ครอบครัวผู้จ้างวานแตกแยก จำต้องมาสังหาร ในขณะที่ตามแนวทางการสืบสวนระบุ สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน ซึ่งอาจพัวพันกับคดียาเสพติด ตำรวจกำลังเตรียมขยายผลต่อ
วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. แถลงการจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิงนางยุพดี สุธรรม อายุ 58 ปี ร่างทรงพระแม่อุมาเทวี โดยผู้ต้องหาใช้ปืนยิงไปที่ผู้ตายจำนวน 5 นัด เสียชีวิตทันที เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 63/1529 หมู่บ้านเคหะธานี 4 ถนนราษฎร์พัฒนา 5 ท้องที่ สน.บางชัน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า ผู้ต้องหาที่สามารถติดตามจับกุมได้ 4 คน ประกอบด้วย นายนครินทร์ อายุยง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/3 ม.10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ทำหน้าที่เป็นมือปืน, นายเอก หรือสม จุลปัญญา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.2 ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำหน้าที่ชี้เป้าและเป็นเจ้าของรถเบนซ์ ผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายศุภสวัสดิ์ หรือโจ สวัสดีมงคล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ถ.เทศบาลสาย 2 ต.ยายร้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ทำหน้าที่ติดต่อหาคนขับรถจักรยานยนต์ให้มือปืน ซึ่งเคยเป็นสายให้กับตำรวจมาก่อน และนายนฤพนธิ์ หรือต้น อักศรวง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซ.มอเตอร์เวย์ 14 แขวงคลองสามวา เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลางเป็นรถเบนซ์ รุ่น 280 SE สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 ศ-8348 กทม. รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง-ดำ ทะเบียน ฬลง 840 กทม. หมวกกันน๊อก และรองเท้าแตะ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุยังไม่พบ อยู่ระหว่างการติดตามค้นหา โดยสามารถจับกุมนายนครินทร์ได้ที่ จ.กาญจนบุรี และผู้ต้องหาอีก 3 คน จับกุมได้ที่กรุงเทพฯ ส่วนผู้จ้างวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอยู่ คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า พบภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด เป็นชายรูปร่างอ้วน
ขับรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหมวกกันน็อกตำรวจ และมีชายอีกคนสวมหมวกผ้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดพบว่าตรงกัน จึงเชื่อว่าชายรูปร่างอ้วนที่มาส่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพื้นที่โดยรอบพบว่า มือปืนที่ก่อเหตนั่งรถยนต์เบนซ์ รุ่น 280 SE สีน้ำเงิน เมื่อถึงปากทางเข้าหมู่บ้านได้ลงจากรถเบนซ์ และมีรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุวิ่งมารับมือปืนและขับมาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนติดตามในพื้นที่บริเวณรอบที่เกิดเหตุ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนี้ได้
จากการสอบสวนนายนครินทร์ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือยิงนางยุพดี จริง เคยเป็นมือปืนรับจ้าง และเคยเป็นตำรวจ ยศ ส.ต.อ. สังกัด กก.ตชด.13 จ.กาญจนบุรี แต่ถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดในปี 2536 สาเหตุในการลงมือสังหารคือ ก่อนหน้านี้ตนและนางยุพดี ขับขี่รถเฉี่ยวชนกัน แล้วนางยุพดีก็พูดจาด่าทอถึงมารดา จึงเกิดความไม่พอใจ
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า อีกสาเหตุหนึ่ง คือก่อนหน้านี้ ภรรยาของผู้จ้างวานเคยไปดูดวงและทำพิธีกรรมกับนางยุพดี และทายไปในทางที่ไม่ดี จึงทำให้ครอบครัวผู้จ้างวานต้องแตกแยก ผู้ต้องหาจึงตัดสินใจทำงานนี้เพราะเป็นการทดแทนบุญคุณที่มีต่อผู้จ้างวานด้วยที่เคยช่วยเหลือเรื่องงานต่างๆ ให้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สาเหตุปมสังหารดังกล่าวอาจมาจากการกู้หนี้สิน เงินกู้ที่ยืมไป โดยพบว่า ผู้จ้างวานให้มือปืนสังหารผู้ตาย ซึ่งมีมูลเหตุจากการวิ่งเต้นคดียาเสพติด โดยผู้ตายได้ยืมเงินเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้ไปวิ่งเต้นคดีให้บุตรสาวรอดพ้นจากการถูกดำเนินคดี แต่ดำเนินการวิ่งเต้นไม่สำเร็จ และไม่มีเงินนำกลับไปใช้หนี้ ทำให้มีการทวงถามอยู่เรื่อยมา จนถูกฆ่าตายในที่สุด
นอกจากนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพยาน และคนใกล้ชิดของผู้ตาย พบว่า คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และสามารถนำไปสู่การออกภาพสเกตช์ของคนร้าย ซึ่งผู้เป็นสามีให้การว่า สามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายที่เป็นมือยิงได้อย่างชัดเจน และพบว่า มีผู้ต้องหาร่วมกระทำการดังกล่าวทั้งหมด 3 คน จนกระทั่งตำรวจตามจับกุมทีมสังหารได้ทั้งหมด ส่วนผู้จ้างวาน กำลังติดตามจับกุมอยู่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหา และของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่ก่อเหตุต่อไป