“เฉลิม” นั่งหัวโต๊ะประชุม ศพส. สรุปผลการทำงานตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินฯ รอบ 6 เดือน เผยยังมียาเสพติดจำนวนมากเตรียมลอบขนเข้าประเทศตามแนวชายแดน ขณะที่แนวโน้มเยาวชนผู้เสพอายุน้อยลง ส่วนยาไอซ์มีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้น
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศพส.) เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ครั้งที่ 2/2555 เพื่อสรุปผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พ.ศ.2555 ในภาพรวม รอบ 6 เดือน (11 กันยายน 2554-31 มีนาคม 2555) และแนวทางการดำเนินงาน รอบ 6 เดือน (1 เมษายน-30 กันยายน 2555) โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดปัจจุบันพบว่า ยังคงมียาเสพติดจำนวนมากจากแหล่งผลิตนอกประเทศ ที่พักรออยู่ตามแนวชายแดน ขณะที่ปริมาณการลำเลียงยาเสพติดต่อครั้งมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และยังคงมีการแพร่ระบาดในชุมชน โดยมีเด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น อายุของผู้เสพลดลง ราคายาเสพติดยังไม่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ยังมีความพยายามที่จะจ้างให้มีการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้น หรือซูโดอีเฟดรีนไปยังแหล่งผลิตนอกประเทศ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการกระทำผิด จากการกว้านซื้อจากร้านขายยาไปสู่การลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ และขยับไปสู่การชักจูงให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุจริตกระทำความผิด ซึ่งทิศทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ ศพส.ในช่วง 6 เดือนหลัง จะยกระดับความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยการผลักดันเป็นวาระภูมิภาค และวาระโลก ลดปัญหาการค้าและแพร่ระบาดของยาเสพติดในระดับพื้นที่ โดยการติดตามผู้เสพที่ผ่านการบำบัด ยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหายาไอซ์ที่กำลังมีแนวโน้มการแพร่ระบาดสูงขึ้น ตัดวงจรผู้เสพรายใหม่โดยการป้องกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน และร่วมมือกับต่างประเทศผลักดันการแก้ไขยาเสพติดเข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 20 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมจัดทำโครงการความร่วมมือในการประกาศหมายจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอให้ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่โดยเฉพาะภาคอีสาน ขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานโดยบูรณาการกำลังป้องกันปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติดมาได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณกองทัพในการล้อมรั้วลวดหนาม ทำให้การสกัดจับผู้ค้าตามแนวชายแดนง่ายขึ้น ขณะนี้เราเดินมาถูกทางแล้ว ซึ่ง 6 เดือนต่อจากนี้จะเป็นการปฏิบัติการที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
