“ประเวศน์ มูลประมุข” รองอธิบดีดีเอสไอ เผย คดีผังล้มเจ้าได้ข้อยุติ ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา อ้างหลักฐานไม่เพียงพอ ระบุไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ ด้าน “เทพเทือก” ระบุเสียใจ ชี้เป็นคดีสำคัญ กระทบกระเทือนความรู้สึกของคนไทย วอนช่วยจับตาคดีอื่นๆ ที่อยู่ในมือของดีเอสไอ
วันนี้ (11 เม.ย.) พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐว่าด้วยการล่วงละเมิดสถาบัน (คดีล้มเจ้า) กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า อัยการมีความเห็นให้ดีเอสไอสรุปสำนวนคดีตามพยานหลักฐาน ซึ่งคณะทำงานชุดสอบสวนจึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนทำผังล้มเจ้า และระบุไม่ได้ว่าใครเป็นคนกระทำความผิด และกระทำที่ไหน เวลาใด อย่างไร ดีเอสไอจึงไม่สามารถดำเนินการสอบสวนต่อไปได้ ขั้นตอนหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะสรุปไปตามพยานหลักฐานแล้วส่งสำนวนคดีไปให้อัยการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญา
“ในที่ประชุมไม่มีความเห็นขัดแย้งกันแต่อย่างใด เรามาตรวจดูพยานหลักฐานกันตามปกติว่าครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะทำหนังสือเสนอความเห็นสั่งไม่ส่งสำนวนคดีผังล้มเจ้าไปยังอัยการได้ ภายหลังสงกรานต์ไม่เกิน 1 สัปดาห์” พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าว
พ.ต.อ.ประเวศน์ยืนยันว่า ดีเอสไอพยายามที่จะติดตามหาหลักฐานทุกวิถีทาง และพยายามประชาสัมพันธ์ผู้ที่มีหลักฐานเพิ่มเติมมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรและ พยานหลักฐานจากคดีอื่น 30 คดี เราก็นำมาประกอบ แต่ก็ไม่ปรากฏความเชื่อมโยงกันในลักษณะของขบวนการที่กล่าวอ้าง จึงไม่มีพยานหลักฐานที่จะไปเอาผิดใครได้ โดยดีเอสไอพิจารณาข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย คือผู้กล่าวหาและผู้ถูกดำเนินคดีมาประกอบกัน โดยไม่ได้เลือกพิจารณาข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
“ยืนยันว่าไม่ได้ยุติเรื่องนี้ หรือเว้นวรรคอะไรตรงไหน แต่เราได้สั่งฟ้องเป็นรายบุคคลไปก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ข้อหาของคนกลุ่มนี้มาร่วมกันเป็นขบวนการมันไม่เกิด เพราะฉะนั้น ดีเอสไอจึงต้องยุติการสืบสวนสอบสวนและทำความเห็นสั่งไม่ส่งฟ้องศาล” พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าว
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะอดีต ผอ.ศอฉ. กล่าวว่า ไม่เข้าใจทำไมจึงสรุปออกมายังนี้ เพราะดีเอสไอไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดให้ทราบ ยืนยันความจริงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ ซึ่งหลังจากนี้จะปรากฏหลักฐานอะไรออกมาเพิ่มเติม หรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องให้พี่น้องคนไทยคอยติดตามกันไป วันนี้เราเป็นคนไทยก็ต้องทำใจและอดทนสู้อย่าท้อถอย และต้องคอยติดตามการทำงานในคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ซึ่งคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศจะต้องร่วมกันติดตามตรวจสอบให้ดี เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่ง
“ก่อนหน้านี้ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ชี้แจงว่าคดีมีมูลและผมยังได้ทำการบันทึกเทปข่าวโทรทัศน์เอาไว้เลย แต่มาวันนี้กลับเปลี่ยนแปลงไป ดีเอสไอควรจะต้องทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุด ผมยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ผลการสอบสวนของดีเอสไอ นั้นสั่งไม่ส่งฟ้องศาล ทั้งๆ ที่คดีนี้กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของคนไทย” นายสุเทพกล่าว