วานนี้ (5 มี.ค.55) พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้าพนักงานสอบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ ว่าด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์(คดีล้มเจ้า) เปิดเผยถึงการสอบสวนถึงที่มาของการจัดทำแผนผังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) หรือผังล้มเจ้าว่า ดีเอสไอได้ส่งหมายเรียกถึงจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง รวม 4 ปาก โดยนัดให้เข้าให้การเพิ่มเติมถึงที่มาในการระบุรายชื่อบุคคลรวม 39 รายชื่อในผังศอฉ. ล่าสุด พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศอฉ.ได้ทำหนังสือถึงดีเอสไอ โดยระบุว่าไม่มีข้อมูลใดจะเข้าให้การเพิ่มเติม เพราะก่อนหน้านี้ได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวนครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม หากพนักงานสอบสวนยืนยันจะสอบสวนเพิ่มเติมก็ขอให้ทำหนังสือกำหนดประเด็นแจ้งไปถึงต้นสังกัดอีกครั้ง ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารอีก 3 ปาก รวมถึงพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น พนักงานสอบสวนจะรอว่าจะเข้าให้การในวันที่ 6 มี.ค.นี้หรือไม่
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาที่ไปการจัดทำแผนผังล้มเจ้าของศอฉ.ได้ แต่หากไม่มีข้อเท็จจริงใดเพิ่มเติมก็ต้องพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง อย่างไรก็ตาม แม้จะสั่งไม่ฟ้องคดีที่เกี่ยวกับแผนผังล้มเจ้า แต่ก็ยังมีคดีที่เป็นความผิดเฉพาะบุคคลที่ต้องพิจารณา ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อไทม์ออนไลน์ และกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีลักษณะจาบจ้วงสถาบันนั้น ช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้จะยื่นเอกสารขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐ เพื่อขอเดินทางไปสอบปากคำพยานเพื่อประกอบในสำนวนการสอบสวนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนคดีล้มเจ้าเคยขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐฯแต่สถานฑูตสหรัฐฯไม่อนุมัติวีซ่าเนื่องจากคดีหมิ่นเบื้องสูงนั้นในประเทศสหรัฐฯไม่มีกฎหมายหรือระบุว่าเป็นความผิดในคดีอาญา.
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาที่ไปการจัดทำแผนผังล้มเจ้าของศอฉ.ได้ แต่หากไม่มีข้อเท็จจริงใดเพิ่มเติมก็ต้องพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง อย่างไรก็ตาม แม้จะสั่งไม่ฟ้องคดีที่เกี่ยวกับแผนผังล้มเจ้า แต่ก็ยังมีคดีที่เป็นความผิดเฉพาะบุคคลที่ต้องพิจารณา ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อไทม์ออนไลน์ และกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีลักษณะจาบจ้วงสถาบันนั้น ช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้จะยื่นเอกสารขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐ เพื่อขอเดินทางไปสอบปากคำพยานเพื่อประกอบในสำนวนการสอบสวนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนคดีล้มเจ้าเคยขอวีซ่ากับสถานทูตสหรัฐฯแต่สถานฑูตสหรัฐฯไม่อนุมัติวีซ่าเนื่องจากคดีหมิ่นเบื้องสูงนั้นในประเทศสหรัฐฯไม่มีกฎหมายหรือระบุว่าเป็นความผิดในคดีอาญา.