“ธาริต” แถลงเตรียมนำคดี “ลูกเทพเทือก” รุกที่เขาแพง เกาะสมุย เป็นคดีพิเศษสัปดาห์หน้า ชี้อาจเข้าข่ายออกเอกสารสิทธิมิชอบ ส่วนโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี กทม.ตรวจสอบไม่พบทุจริตหรือฮั้วประมูล ดีเอสไอรุกต่อ จ้องสอบโครงการใหม่ จัดซื้อ “สายเคเบิลใยแก้วนำแสง” ราคาแพง
เมื่อวันที่ (22 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวผลการประชุมคณะอนุกรรมการคดีพิเศษ มีมติให้ดีเอสไอ เสนอเรื่องร้องเรียนนายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จ.สุราษฎร์ธานี ครอบครองที่สาธารณะบนเทือกเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ เข้าที่ประชุม กคพ.เพื่อพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล
อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 20 คน นำโดยนายสุขสงวน สุธีส่วน ขอเข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เพื่อเรียกร้องให้ดีเอสไอเร่งรีบ ดำเนินคดีเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิมิชอบคือคดีรุกที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย ซึ่งดีเอสไอได้ทำงานและหาหลักฐานอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการตั้งพนักงานสอบสวนดีเอสไอไปทำงานเรื่องนี้พบว่า คดีนี้มีมูลเบื้องต้นที่ควรจะดำเนินคดีต่อไป โดยมูลเหตุที่สำคัญ คือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้มีหนังสือแจ้งให้กรมที่ดินแต่งตั้งคณะกรรมการเพิกถอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงการออกเอกสารสิทธิแปลงนี้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61
นอกจากนี้ การตรวจสอบของดีเอสไอพบว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ดังนั้นในวันจันทร์ ที่ 26 มี.ค.ดีเอสไอ จะเสนอคดีรุกที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย ต่อที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
นายธาริตยังกล่าวถึงความคืบหน้าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี ของกรุงเทพมหานครว่า จากการตรวจสอบโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวีของ กทม.จำนวน 6 โครงการ สรุปผลได้ดังนี้ กรณีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีและกล้องดัมมี่หรือกล้องเปล่านั้น สอบสวนไม่พบความผิดปกติ ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาและทีโออาร์ ซึ่งการตรวจรับไม่มีข้อพิรุธ ไม่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้พบความผิดปกติ ในส่วนของการจัดซื้อสายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือ สายไฟเบอร์ออปติก ปรากฏว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดซื้อของเมืองพัทยา ที่จัดซื้อราคาเมตรละ 103 บาท การไฟฟ้านครหลวงจัดซื้อราคาเมตรละ 60 บาท ส่วนทาง กทม.จัดซื้อในราคาที่แพงกว่าในราคา 400 บาท เห็นว่ามีมูลพอสมควรที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิด ดีเอสไอ จึงส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพราะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของ กทม.ดำเนินการไต่สวนตามอำนาจหน้าที่