ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อม “โคเน่ โมฮาเหม็ด” เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้อง ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรม เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงกลับคืน หลังนักเตะในสังกัดถูกจับตรวจปัสสาวะและพบเป็นสีม่วง งัดเอกสารหลักฐานจาก รพ.กรุงเทพ ยันไม่พบสารเสพติด ขณะที่ “โคเน่” ระบุไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเสพยาแต่อย่างใด กินแต่วิตามินที่นักกีฬานิยมกินกันเท่านั้น
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมด้วยนายโคเน่ โมฮาเหม็ด นักฟุตบอลทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชี้แจงผลการตรวจสอบปัสสาวะของนักฟุตบอล ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดเข้าไปตรวจค้นชาวต่างชาติที่สถานบันเทิงย่านซอยนานา เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้มีการควบคุมตัวนายโคเน่ไปทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และต่อมาได้มีการให้ข่าวว่าผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง
นายรณฤทธิ์กล่าาวว่า หลังจากนั้นในวันที่ 1 มี.ค.ทางสโมสรฯ ได้นำตัวนายโคเน่ไปทำการตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.กรุงเทพ ซึ่งผลการตรวจยืนยันว่าไม่มีสารเสพติดดังกล่าว จึงเห็นว่าการให้ข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่นักฟุตบอลและสโมสรเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงอีกครั้งเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงกลับคืน
ขณะที่ นายโคเน่กล่าวว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเสพยาเสพติดแต่อย่างใด ปกติจะไปกินอาหารในย่านดังกล่าวเป็นประจำ และก่อนที่จะมีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ตนได้รับประทานวิตามินที่นักกีฬานิยมรับประทานกันเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวนั้นได้เร่งประสานไปยัง บช.ปส.เพื่อขอผลตรวจยืนยันว่าตรงกันหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีสารเสพติดจริงก็น่าจะมีหมายเรียก แต่กรณีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะไม่มีหมายเรียกตามมา แต่ที่เป็นประเด็นเพราะเป็นบุคคลสาธารณะ ทั้งนี้สำหรับผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงนั้นเกิดขึ้นได้หลายกรณี แต่ก่อนจะมีการดำนินคดีหรือออกหมายเรียกก็ต้องมีผลยืนยันจากโรงพยาบาลควบคู่ไปด้วยอยู่แล้สว ยืนยันว่าน้ำยาที่ใช้ตรวจมีประสิทธิภาพและใช้กันทั่วโลก ไม่ได้ไร้ประสิทธิภาพแต่อย่างใด