ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 140 ปี “สาวเจียงฮาย” หลอกเงินชาวบ้านกว่า 24 ล้าน ร่วมลงทุนปล่อยกู้ให้สหกรณ์ฯ จูงใจให้ดอกเบี้ยสูงร้อยละ 24 ต่อปี รับสารภาพเหลือจำคุก 70 ปี แต่ขังได้แค่ 20 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงประชาชน อ.2403/54 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นางวิไลย หนูดำสวน อายุ 43 ปี ชาว จ.เชียงราย เป็นจำเลยในความผิดฐาน กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน ธ.ค.52 - ต.ค.53 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกรรม ด้วยการออกอุบายหลอกลวงผู้เสียหาย 28 ราย โดยขอกู้ยืมเงินจากผู้เสียหายจำนวนทั้งสิ้น 24,507,000 บาท เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ ศุภนิมิตขุนตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย โดยจะจ่ายผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงร้อยละ 3-10 ต่อสัปดาห์ หรือร้อยละ 24 ต่อปี ซึ่งมีอัตราสูงเกินกว่าที่กฎหมาย ทั้งที่เป็นเท็จ เพราะความจริงแล้วจำเลยไม่ได้นำเงินไปลงทุนปล่อยกู้ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ภายหลังจำเลยได้คืนเงินต้น และดอกเบี้ยบางส่วนให้ผู้เสียหายบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่จ่ายให้อีกเลย เหตุเกิด ต.ยางฮอม ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ต่อมาวันที่ 21 เม.ย.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยได้ พร้อมให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายเบิกความถึงรายละเอียด สอดคล้องกัน รวมทั้งข้อความในสัญญากู้ยืม และบันทึกคำให้การดังกล่าวก็ยืนยันชัดเจน ซึ่งการให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยอัตราสูง เป็นเพียงอุบายทุจริตให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง
พิพากษาว่า จำเลยผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2522 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 5, 12 ประกอบมาตรา 341 เป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรมรวม 28 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี เป็น 140 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน รวม จำคุก 70 ปี อย่างไรก็ตามความผิดฐานนี้กฎหมายบัญญัติให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุด 20 ปี และให้จำเลยคืนเงินที่ยังค้างแก่ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ด้วย