รวบอดีตสจ๊วตตกงานหันมาค้ายาไอซ์-ไวอะกร้า

ตำรวจ กก.ดส.บช.น.เข้าตรวจฉี่ร้านสปาเกย์ “8 นิ้วครึ่ง” ย่านศรีนครินทร์ พบพนักงานนวดชายฉี่สีม่วง 2 ราย รับสารภาพเสพยาไอซ์ และซัดทอดมาถึงผู้ค้าเป็นหญิง 1 ราย และชาย 1 ราย พบว่าเป็นอดีตสจ๊วตสายการบินเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์ ถูกไล่ออกเพราะโดนจับได้ว่าเสพยาไอซ์ ก่อนจนมุมถูกเจ้าหน้าที่ล่อซื้อค้นห้องพักพบอุปกรณ์การเสพกว่า 10 ชุด รับสารภาพจำหน่ายยาให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็ยเกย์ ในราคากรัมละ 3,000 บาท และบางครั้งขายควบคู่กับยาไวอะกร้าเพื่อใช้ร่วมเพศได้ทันที


วันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 02.00 น. ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.) พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ดส. บช.น. พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น. แถลงการจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายยาไอซ์ ประกอบด้วยผู้ต้องหา 2 ราย นายศรัณยู หรือแมค ชัยสิทธิ์วาทิน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/172 หมู่ 1 แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ น.ส.ปิยดา หรือน้ำ คล้ายสุบรรณ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 382/7 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาไอซ์ 23 กรัม ยาบ้า 2 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 2 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ 1 เล่ม และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ จำนวนกว่า 10 ชุด โดยจับกุม น.ส.ปิยดาได้ที่ลานจอดรถลาดพร้าว คอนโดทาวน์ 1 ซ.ลาดพร้าว 87 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ และจับกุมนายศรัณยูได้ภายในห้องพักเลขที่ 336 อาคารรัชดา 17 เพลส ซอยอินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ

พ.ต.ท.สำเริงเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น.ได้เข้าตรวจปัสสาวะของพนักงานนวดชายภายในร้านสปาเกย์ “8 นิ้วครึ่ง” ซอยศรีนครินทร์ 45 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. พบว่าพนักงานนวดชายมีปัสสาวะสีม่วง 2 ราย โดยทั้งคู่รับสารภาพว่าติดยาไอซ์ และสั่งซื้อยาไอซ์มาจาก น.ส.ปิยดา เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมโดยการให้สายลับติดต่อล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม จึงทำการนัดหมายให้มาส่งยาที่ลานจอดรถอาคารลาดพร้าว คอนโดทาวน์ 1 ซอยลาดพร้าว 87 แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง เมื่อถึงเวลานัดหมาย น.ส.ปิยดานำยาไอซ์มาส่งให้สายลับ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจค้นพบยาไอซ์อีก จำนวน 1 กรัมที่ตัว หลังจากนั้นนำตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักเลขที่ 807 อาคารวงศ์เจริญแมนชั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ที่ น.ส.ปิยดาพักอยู่กับแฟนหนุ่ม แต่ปรากฏว่าแฟนหนุ่มของ น.ส.ปิยดาไหวตัวทันรีบนำยาไอซ์ประมาณครึ่งกิโลกรัมเททิ้งลงชักโครกแล้วโรยตัวลงมาจากท่อน้ำด้านหลังอาคาร 8 ชั้น หลบหนีไปได้

พ.ต.ท.สำเริงกล่าวอีกว่า จากการสอบสวน น.ส.ปิยดาให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาไอซ์มาจากนายศรัณยู เจ้าหน้าที่จึงทำการติดต่อล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม ในราคา 3,000 บาท โดยเจ้าตัวให้โอนเงินไปให้ก่อน จากนั้นให้ไปรับยาที่ห้องเลขที่ 336 อาคารรัชดา 17 เพลส ซอยอินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง เมื่อถึงเวลานัดหมายนายศรัณยูได้นำยาไอซ์มาส่งให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก ซึ่งปรากฏว่าพบอุปกรณ์การเสพอีกกว่า 10 ชุด จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.)

จากการสอบสวนนายศรัณยูให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นสจ๊วตของสายการบินเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์ ของออสเตรเลีย ทำมาได้ประมาณ 5 ปี จนกระทั่งถูกจับได้ว่าเสพยาไอซ์จึงถูกไล่ออก จากนั้นได้มารู้จักกับชายคนหนึ่งที่ตนเรียกว่า “พี่ชาย” ซึ่งเป็นเอเยนต์จำหน่ายยาไอซ์ ตนจึงตัดสินใจค้ายาไอซ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพราะตกงาน โดยจะรับยามาจากพี่ชายในราคากรัมละ 2,500 บาท และจะนำไปขายให้ลูกค้าในราคา 3,000 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเกย์ทั้งสิ้น อีกทั้งหากใครที่มาซื้อยาแล้วไม่มีอุปกรณ์การเสพตนก็จะขายให้ด้วยเลย บางครั้งจะขายควบคู่ไปกับยาไวอากร้าด้วย เนื่องจากเวลาเสพยาไอซ์เสร็จแล้ว จะใช้ยาไวอากร้าต่อเพื่อร่วมเพศกันเลยทีเดียว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดกับผู้ต้องหาทั้งสองคน สำหรับ น.ส.ปิยดา แจ้งอีกข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป