รวบทันควันหนุ่มเขมรมือฉก ทำทีเดินเที่ยวตลาดริมคลองหลอด ฉกแบล็กเบอร์รีนักข่าวสาวขณะวางมือถือรอซ่อมที่ร้าน โชคดีมีคนเห็นก่อนร้องตะโกนให้ผู้ค้าร้านใกล้เคียงช่วยสกัดจับไว้ได้ สารภาพลงมือก่อเหตุเพราะเมาเหล้าและไม่มีเงินค่ารถกลับห้อง ขณะที่นักข่าวสาวไม่ติดใจเอาความ พร้อมว่ากล่าวตักเตือนผู้ต้องหาให้สำนึก ด้าน ตร.ทำประวัติแล้วดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย
วันนี้ (19 ก.พ.) เวลา 22.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม ร.ต.อ.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุชายต่างด้าวฉกโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รี ที่ตลาดริมคลองหลอด แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงให้ ด.ต.สกุล บุญแต่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สน.ชนะสงคราม จับกุมตัวมาพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รีสีดำ จำนวน 1 เครื่อง แล้วนำตัวมาสอบสวน
น.ส.ปอนด์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ผู้เสียหายให้การว่า ได้นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รีสีดำ จำนวน 1 เครื่อง ไปซ่อมกับร้านซ่อมมือถือไปที่ตลาดริมคลองหลอด ขณะที่นำโทรศัพท์วางไว้รอคิวซ่อม ซึ่งมีคนต่อคิวประมาณ 2-3 คนรวมทั้งตนด้วยอยู่บริเวณหน้าร้าน และเจ้าของร้านซ่อมกำลังก้มหน้าก้มตาซ่อมมือถือเครื่องอื่นอยู่นั้น คนร้ายได้ทำทีเดินเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วอาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่ทันมองลงมือฉกโทรศัพท์เดินออกไปอย่างใจเย็น ระหว่างนั้นเจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือได้เงยหน้าขึ้นมาถามหาโทรศัพท์ ตนนึกว่าเจ้าของร้านอำเล่น ทางเจ้าของร้านหันไปเห็นชายหนุ่มสวมชุดสีดำทั้งชุดเดินไป จึงร้องโวยวาย เพื่อนร้านค้าข้างเคียงได้ยินจึงวิ่งเข้าไปรุมจับและทำร้ายจนบาดเจ็บ หลังจากนั้นจึงทำการค้นตัวพบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.ปอนด์ ตกอยู่บริเวณดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม
จากการสอบสวนทราบชื่อว่า นายเดือน อายุ 23 ปี สัญญาชาติกัมพูชา ให้การว่า ได้มาหาเพื่อนย่านพระราม 7 แล้วนั่งดื่มกินเหล้าขาวกัน หลังจากเสร็จจากกินเหล้าได้แวะมาลงย่านตลาดคลองหลอดเพื่อเดินเที่ยว จังหวะที่เดินผ่านไปเห็นโทรศัพท์วางอยู่คงคิดว่าไม่มีใครเห็นจึงหยิบมา โดยอ้างว่าทำลงไปเพราะเมาแล้วไม่มีเงินค่ารถกลับห้องพักย่านลาดพร้าว ซึ่งตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านข้าวมันไก่ที่ตลาดโชคชัย 4 และได้พักอาศัยอยู่กับเจ้าของร้านด้วย ทำงานมาแล้วประมาณ 8 เดือน ได้ค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท ก่อนจะออกไปหาเพื่อนในวันนี้แล้วมาก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน น.ส.ปอนด์ ผู้เสียหายกล่าวว่า ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะโทรศัพท์มือถือก็ได้คืนแล้ว เพียงแต่อยากให้นายเดือนนั้นเกิดความสำนึกและหลาบจำเพื่อจะได้ไม่ก่อเหตุลักษณะนี้กับใครอีก ด้านนายเดือนได้ยกมือไหว้ขอโทษ น.ส.ปอนด์ ด้วยหน้าตาที่บอบช้ำและมีเลือดออกเล็กน้อยจากการโดนรุมยำ และให้สัญญาว่าจะไม่ทำอีก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักร แล้วควบคุมตัวไว้เพื่อนำส่งศาลดำเนินคดี และรีบผลักดันออกนอกประเทศ