ตำรวจบางชันโชว์ผลงานตามจับกุมสองตีนแมวปีนลักทรัพย์บ้านเศรษฐีกวาดพระเครื่อง สร้อยทอง ไอโฟน มูลค่ากว่า 10 ล้าน สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหาเงินเสพยาแถมแต่ละคนมีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว
วานนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน แถลงผลการจับกุม นายวสันต์ หรือตั้ม สุดดี อายุ 21 ปี และนายหอมหวน หรือเท่ง สีเขียว อายุ 22 ปี พร้อมของกลางพระเครื่องกว่า 50 องค์ เงินสด 4 หมื่นบาท นาฬิกายี่ห้อทิสสอท 1 เรือน สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้น และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 จำนวน 1 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากนายสิทธิพร รัตนาภรณ์ อายุ 50 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ว่าเมื่อกลางดึกมีคนร้ายเข้ามาขโมยของภายในบ้านได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนรีบออกติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้กระทั่งสืบทราบว่านายวสันต์นำไอโฟน 4 ไปขายที่ร้านเอสเคโฟน ในตลาดมีนบุรี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นขยายผลติดตามจับกุมนายหอมหวนเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนได้ที่เพิงพักใต้สะพานคลองชุมเห็ด แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. พร้อมของกลางที่เหลือ
จากการสอบสวนนายวสันต์รับสารภาพว่า ตนและนายหอมหวนจะเลือกหมู่บ้านใหญ่เพื่อเข้าไปขโมยของ โดยจะปีนเข้าทางกำแพงหลังของบ้านที่ติดกับป่าหญ้า โดยนายหอมหวนจะทำหน้าที่ดูต้นทางส่วนตนเป็นคนเข้าไปขโมยของ ทำมาแล้วหลายครั้งและหลายท้องที่ ซึ่งตนและนายหอมหวนเคยถูกตำรวจ สน.มีนบุรี จับกุมในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรเมื่อปี 49 ติดคุกมาแล้ว 1 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ นายหอมหวนยังเคยถูกจับกุมคดีทำร้ายร่างกายเจ้าของบ้านที่เข้าไปขโมยของย่านร่มเกล้า เมื่อปี 51 ติดคุก 4 ปี พอออกมาแล้วก็นัดรวมตัวกันออกตระเวนขโมยของตามหมู่บ้านใหญ่อีกครั้ง พอได้เงินมาแล้วก็นำมาแบ่งกันแล้วเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งวันนั้นขณะเข้าไปนายสิทธิพรหลับอยู่ในบ้านแต่ไม่รู้สึกตัว จึงรีบขโมยของแล้วปีนกำแพงหนีกลับไปทางเดิม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งมิได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้งสองตามกฎหมายต่อไป